Stock - Finance

‘ความต้องการพุ่ง-จัดหาตึงตัว’ หนุน ‘ราคาน้ำมันโลก’ ปี 65

นักวิเคราะห์มอง ความต้องการน้ำมันโลก ในปี 2565 พุ่งสูงขึ้น ขณะที่การจัดหา ยังไม่กลับมาอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง คาดราคาเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 65-85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

หลังจากที่ปี 2563 ความต้องการน้ำมัน ดิ่งลงอย่างหนัก จากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เริ่มจากจีน ก่อนจะแพร่กระจายไปทั่วโลก จนทำให้เกิดการล็อกดาวน์ตามมา

อย่างไรก็ดี เมื่อสถานการณ์ระบาดลดความรุนแรงลง ความต้องการน้ำมันในปี 2564 ก็เริ่มฟื้นตัวขึ้น เร็วกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้อย่างมาก และมีการประเมินว่า ความต้องการน้ำมันจะพุ่งสูงขึ้นในปี 2565 และปีต่อ ๆ ไป แม้จะมีความพยายามที่จะผลักดันให้ใช้พลังงานสะอาดมากขึ้นก็ตาม

LINE ALBUM งานเพลทท้ายปี 2021 ๒๒๐๑๐๒ 0

ช่วงเดือนสุดท้ายของปี 2564 ราคาน้ำมันในตลาดดลก ค่อนข้างผันผวน โดยขาลงได้ปัจจัยลบ จากการระบาดของไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอน ขณะที่ขาขึ้นได้แรงหนุนจาก การคาดการณ์ถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้น แต่การจัดหายังตึงตัว หลังกลุ่มโอเปคพลัส ยืนยันที่จะเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันวันละแค่ 400,000 บาร์เรลเท่านั้น

แดเนียล เยอร์กิน รองประธาน ไอเอชเอส มาร์กิต บริษัทผู้ให้บริการข้อมูลทางเศรษฐกิจ-การลงทุนรายใหญ่ของโลก แสดงความเห็นว่า ในปีนี้ สหรัฐน่าจะเพิ่มกำลังผลิตน้ำมันดิบในประเทศขึ้นอีก 900,000 บาร์เรลต่อวัน เพื่อคลายแรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อที่ทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นับตั้งแต่เกิดวิกฤติโควิด บรรดาผู้ผลิตน้ำมันสหรัฐ ได้ปรับลดกำลังการผลิตลงมาอย่างมาก ท่ามกลางความต้องการบริโภคที่ลดลง จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศที่น้อยลง เพราะมาตรการล็อกดาวน์

อย่างไรก็ดี แม้ในรอบปีที่ผ่านมา การผลิตน้ำมันของสหรัฐ จะเพิ่มขึ้น ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่น้อยกว่าช่วงก่อนเกิดวิกฤติโควิดอย่างมาก

ข้อมูลจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (อีไอเอ) แสดงให้เห็นว่า ในปี 2563 สหรัฐมียอดการผลิตน้ำมันดิบภายในประเทศที่ 12.29 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะที่ตัวเลขปี 2564 ยังอยู่ที่ 11.18 ล้านบาร์เรลต่อวัน

“ในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา กลุ่มโอเปคพลัส ถือเป็นผู้ควบคุมตลาดน้ำมันของโลก แต่เราเริ่มเห็นกำลังการผลิตของสหรัฐ ที่กลับมาและจะกลับมามากขึ้นในปี 2565 โดยคาดว่า กำลังผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐ ในปีนี้ จะเพิ่มขึ้นเป็น 11.85 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือมากกว่านั้น”

เยอร์กิน ประเมินว่า กำลังการผลิตน้ำมันของสหรัฐ ที่เพิ่มขึ้น จะช่วยให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกปี 2565 เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 65-85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยมีโอกาสน้อยมากที่ราคาน้ำมันจะไต่ขึ้นไปสูงระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เว้นแต่กรณีมีเหตุขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ระหว่างชาติมหาอำนาจขึ้นเท่านั้น

ความเห็นข้างต้น สอดคล้องกับผลสำรวจของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัส ที่ระบุว่า ผู้บริหารของบริษัทน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในสหรัฐ คาดว่าจะมีการเพิ่มกำลังการผลิต และขุดเจาะน้ำมันมากขึ้นในปี 2565 ตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น

shutterstock 1667274388

แต่ในขณะเดียวกัน บรรดาผู้บริหารก็แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับต้นทุนที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน

ผู้บริหาร 49% ที่ตอบแบบสำรวจระบุว่า บริษัทของพวกเขาตั้งใจจะเพิ่มกำลังการผลิตในปี 2565 ขณะที่ 15% ตั้งใจจะรักษากำลังการผลิตไว้ที่ระดับเดิม และ 13% จะมุ่งเน้นการลดภาระหนี้สินของบริษัท

“ปัญหาติดขัดในห่วงโซ่อุปทานที่มีมากขึ้น ประกอบกับเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเป็นเงาตามตัว อาจนำไปสู่ปัญหาความล่าช้าและส่งผลกระทบต่อการขุดเจาะและดำเนินโครงการให้เสร็จสิ้นในปี 2565” ผู้บริหารรายหนึ่ง ระบุ ขณะที่บางส่วน บอกว่า ปัจจุบันบริษัทประสบปัญหาการสรรหาแรงงานที่มีคุณสมบัติเหมาะสม

ทั้งนี้ ดัชนีคาดการณ์แนวโน้มตลาดน้ำมันระยะเวลา 6 เดือนปรับตัวลดลงจาก 58.9 จุดในไตรมาส 3/2564 สู่ 53.2 จุด แต่นับว่ายังอยู่ในเกณฑ์บวก ขณะเดียวกันดัชนีต้นทุนปัจจัยการผลิตพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยปรับตัวขึ้นจาก 60.8 จุดในไตรมาส 3 สู่ 69.8 จุด

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลโดยเฉลี่ยแล้ว ผู้ตอบแบบสำรวจคาดการณ์ว่า ราคาน้ำมัน จะอยู่ที่ 75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในช่วงเดือนธันวาคม 2565

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo