Stock - Finance

แบงก์ชาติ เผยเสถียรภาพการเงินไทย 2564 ยัง ‘เปราะบาง’ – การฟื้นตัวเศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอนสูง

 แบงก์ชาติรายงานการประเมินระบบการเงินไทยปีนี้ โดยรวมมีเสถียรภาพ แต่หลายส่วนยังมีความ “เปราะบาง” และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ยังมีความไม่แน่นอนสูงและไม่เท่าเทียม
นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเสถียรภาพระบบการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยรายงานการประเมินเสถียรภาพระบบการเงินไทย 2564 ว่า ระบบการเงินไทยโดยรวมมีเสถียรภาพ แต่หลายส่วนยังมีความเปราะบาง และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอนสูงและไม่เท่าเทียม รายงานฉบับนี้ ธปท. จัดทำร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เพื่อให้สาธารณชนรับทราบประเด็นความเสี่ยงต่อเสถียรภาพระบบการเงินไทย ซึ่งจะช่วยให้สามารถเตรียมความพร้อมในการรับมือความเสี่ยงและการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในระยะต่อไป  มีรายละเอียด ดังนี้
LINE ALBUM แบงค์ชาติ 211231 0

เศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวได้มั่นคงขึ้น แต่ยังมีความไม่แน่นอนสูงและไม่เท่าเทียม ทำให้ต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งกว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจจะกลับสู่ระดับก่อนการระบาด ส่งผลต่อความสามารถในการชำระหนี้ของภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจบางกลุ่ม ซึ่งเป็นความเสี่ยงสำคัญต่อเสถียรภาพระบบการเงินไทย โดยภาคครัวเรือนยังมีภาระหนี้ในระดับสูง และเร่งตัวขึ้นในช่วงโควิด-19 รวมถึงยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ขณะที่ธุรกิจ SMEs และธุรกิจในภาคบริการที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวยังมีความเสี่ยงด้านสภาพคล่องและฐานะการเงินสูงกว่าภาคธุรกิจอื่น ๆ เนื่องจากฟื้นตัวได้ช้า

ระบบการเงินไทยโดยรวมยังมีเสถียรภาพ ธนาคารพาณิชย์ (ธพ.) มีเงินกองทุนเงินสำรองและสภาพคล่องอยู่ในระดับสูง สามารถทำหน้าที่เป็นกลไกสำคัญในการสนับสนุนความต้องการสินเชื่อเพื่อรองรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

ขณะที่ธุรกิจประกันภัยในภาพรวมยังมีฐานะการเงินมั่นคง โดยผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 จำกัดอยู่เฉพาะบางบริษัท ที่ขายกรมธรรม์ประกันภัยโควิด- 19 แบบ “เจอ จ่าย จบ” ทางการได้มีมาตรการการดูแลอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ผลการทดสอบภาวะวิกฤตภายใต้สถานการณ์จำลองในลักษณะมองไปข้างหน้าชี้ว่า ระบบสถาบันการเงินยังมีความเข้มแข็งเพียงพอ รองรับความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้น ขณะที่ตลาดการเงินโดยรวม มีเสถียรภาพและสามารถทำหน้าที่ได้ตามปกติ

การผสมผสานนโยบายการเงิน นโยบายการคลัง และมาตรการช่วยเหลือโดยผู้กำกับดูแลในช่วงที่ผ่านมา มีบทบาทสำคัญในการช่วยพยุงเศรษฐกิจ เสริมสร้างความเชื่อมั่นในตลาดการเงิน และดูแลลูกหนี้ให้รอดพ้นจากภาวะวิกฤต ส่งผลให้โอกาสเกิดวิกฤตของระบบการเงินไทยลดลงจากปีก่อนหน้า โดยภาครัฐได้ปรับรูปแบบของมาตรการให้สอดรับกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง โดยในปี 2564 นโยบายการเงินยังต้องอยู่ในระดับผ่อนคลายต่อเนื่อง

ดอน นาครทรรพ

ขณะที่มาตรการทางการเงิ นเน้นการให้ความช่วยเหลือภาคครัวเรือน และธุรกิจที่ตรงจุด และเป็นมาตรการระยะยาวขึ้นตามความรุนแรงและยืดเยื้อของปัญหา โดยเน้นการเสริมสภาพคล่องสำหรับกลุ่มที่ยังได้รับผลกระทบ และปรับมาตรการแก้หนี้เดิมมาเป็นการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้สอดคล้องกับลักษณะปัญหาและการฟื้นตัวของรายได้ลูกหนี้ พร้อมดูแลให้ระบบการเงินสามารถทำหน้าที่สนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจได้อย่างต่อเนื่อง

ในระยะข้างหน้า การรักษาเสถียรภาพระบบการเงินไทยยังมีความท้าทายในหลายด้านโดยเฉพาะ

1. การฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ยังต้องใช้เวลาและมีความไม่แน่นอนสูงจากความเสี่ยงของไวรัสกลายพันธุ์ ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

2. ปัญหาหนี้ครัวเรือนซึ่งเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่สะสมมานานและถูกซ้ำเติมให้ชัดเจนขึ้นจากโควิด-19

3. บริบททางเศรษฐกิจและระบบการเงินที่จะเปลี่ยนแปลงไปหลังผ่านพ้นโควิด-19  จะกระทบความสามารถในการทำธุรกิจหรือการแข่งขันของบางภาคธุรกิจทำให้ต้องปรับตัว ดังนั้น
การเร่งปรับโครงสร้างหนี้ให้สอดคล้องกับความสามารถชำระหนี้ในระยะยาวของลูกหนี้ การแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างครบวงจร และการสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบการเพื่อให้สามารถปรับตัวให้สอดคล้องกับโลกหลังโควิด- 19 จึงมีบทบาทสำคัญในการดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงิน และต้องเร่งผลักดันในระยะต่อไป

LINE ALBUM money 211231 e1640929429672

 

ภายใต้ภาวะที่มีความไม่แน่นอนสูง ธปท. และหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง จะร่วมกันติดตามความเสี่ยงในภาคส่วนต่าง ๆ ของระบบเศรษฐกิจการเงินอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถออกมาตรการดูแลเพิ่มเติมได้อย่างทันท่วงทีหากจำเป็น รวมถึงดูแลให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจเป็นไปอย่างราบรื่นและเอื้อให้เกิดการปรับตัวอย่างเหมาะสม เพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตในครั้งนี้ร่วมกันได้อย่างมั่นคง

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight