10 หุ้นที่มีกำไรสุทธิ บริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ (SET) ที่คำนวณอยู่ในดัชนี SET100 Index รายงานกำไรสุทธิ ประจำงวดไตรมาส 3 ปี 2564 รวมกันกว่า 154,000 ล้านบาท วันนี้เราได้รวบรวมบริษัทที่สร้างผลการดำเนินงานเติบโตโดดเด่น กำไรสุทธิปรับเพิ่มขึ้นมากที่สุด เมื่อเทียบกับปีก่อน (Year on Year) มาฝากกัน
10 หุ้นที่มีกำไรสุทธิ เช็คเลยตัวไหนบ้าง
- หุ้น IVL : บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน)
กลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ กำไรสุทธิไตรมาส 3/64 อยู่ที่ 6,548 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 1,622.82%
- หุ้น PTTGC : บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน)
กลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ กำไรสุทธิไตรมาส 3/64 อยู่ที่ 7,005 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 671.17%
- หุ้น BCH : บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน)
กลุ่มธุรกิจการแพทย์กำไรสุทธิไตรมาส 3/64 อยู่ที่ 2,896 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 600.65%
- หุ้น CHG : บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน)
กลุ่มธุรกิจการแพทย์ กำไรสุทธิไตรมาส 3/64 อยู่ที่ 1,563 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 455.01%
- หุ้น TOP : บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)
กลุ่มธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค กำไรสุทธิไตรมาส 3/64 อยู่ที่ 2,062 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 188.37%
- หุ้น KCE : บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน)
กลุ่มธุรกิจชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ กำไรสุทธิไตรมาส 3/64 อยู่ที่ 604 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 141.62%
- หุ้น BEC : บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน)
กลุ่มธุรกิจสื่อและสิ่งพิมพ์ กำไรสุทธิไตรมาส 3/64 อยู่ที่ 142 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 137.61%
หุ้น TCAP : บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน)
กลุ่มธุรกิจธนาคาร กำไรสุทธิไตรมาส 3/64 อยู่ที่ 1,333 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 108.75%
- หุ้น BAM : บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
กลุ่มธุรกิจเงินทุนและหลักทรัพย์ กำไรสุทธิไตรมาส 3/64 อยู่ที่ 576 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 93.21%
- หุ้น SCB : ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
กลุ่มธุรกิจธนาคาร กำไรสุทธิไตรมาส 3/64 อยู่ที่ 8,817ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 89.98%
10 หุ้นที่มีกำไรสุทธิ รวบรวมข้อมูลจาก SET SMART
หมายเหตุ: รวบรวมข้อมูลจาก SET SMART โดยคัดเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ สภาพคล่องสูง ที่ถูกคำนวณในดัชนี SET100 เปรียบเทียบผลการดำเนินงานช่วงไตรมาส 3/64 กับไตรมาส 3/63
เราสามารถใช้ข้อมูลดังกล่าวเป็นไอเดียในการมองหาหุ้นที่กำลังเป็นเทรนด์เติบโต หรือกลับมาเทิร์นอะราวด์ ซึ่งโดยภาพรวมเราจะเห็นชัดเจนว่าเป็นช่วงเวลาที่กลุ่มปิโตรเคมี เคมีภัณฑ์ และโรงกลั่น กลับมาทำผลงานได้โดดเด่นมาก ตามราคาน้ำมันที่เป็นขาขึ้นนั่นเอง รวมทั้งกลุ่มโรงพยาบาลเอกชนก็เป็นช่วงเก็บเกี่ยวผลกำไรอีกครั้ง
ส่วนกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจด้านการเงิน อาทิ ธนาคาร หลักทรัพย์ และบริหารสินทรัพย์ ก็เห็นทิศทางเริ่มดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งก็เป็นไปตามแนวโน้มเศรษฐกิจที่กำลังกลับมา และกลุ่มการเงินมักจะสะท้อนผลบวกออกมาก่อนกลุ่มอื่นๆ
หมายเหตุ : บทความนี้เพื่อใช้สำหรับศึกษาเบื้องต้นเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- วิเคราะห์หุ้น ADVANC ในดีลประวัติศาสตร์ ‘TRUE-DTAC’
- ‘เครือซีพี-เทเลนอร์’ จับมือตั้งบริษัทใหม่ ดันไทย ‘ฮับเทคโนโลยี’ ภูมิภาค
- มุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจควบคู่สิ่งแวดล้อม สังคม เน้นธรรมาภิบาล หนุน ‘ปตท.’ คว้า ‘ดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์’ 10 ปี ต่อเนื่อง