หุ้น OR หรือ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2564 มีรายได้รวม 116,792 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 11.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 104,854 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 1,892 ล้านบาท ปรับลดลง 45.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3,450 ล้านบาท
สำหรับกำไรที่ลดน้อยลง เนื่องจากกลุ่มธุรกิจน้ำมันที่มีผลการดำเนินงานอ่อนตัวลง จากปริมาณขายและกำไรขั้นต้นที่ลดลง ด้วยสถานการณ์ COVID-19 ระลอกใหม่ที่ขยายวงกว้าง ทำให้ภาครัฐต้องออกมาตรการควบคุมที่เข้มงวดขึ้น ส่งผลกระทบต่อปริมาณขายน้ำมันดีเซลและเบนซิน รวมถึงค่าการตลาด แม้ว่าราคาขายเฉลี่ยจะปรับตัวสูงขึ้นก็ตาม
ประกอบกับกลุ่มธุรกิจ Non-Oil ก็โดนกดดันในแง่ของปริมาณขายเช่นกัน อีกทั้งบริษัทได้ช่วยเหลือผู้ประกอบการ Franchisee ร้านคาเฟ่ อเมซอน ในการลดอัตราการจัดเก็บค่า Royalty fee และ Marketing fee ทำกำไรในส่วนนี้หายไปด้วย
อย่างไรก็ดี ภาพรวมผลการดำเนินงาน 9 เดือนของปี 2564 หุ้น OR ยังสามารถเติบโตได้ดี โดยมีรายได้รวม 353,960 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 10.9% จากปีก่อนที่รายได้ 319,308 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 9,121 ปรับเพิ่มขึ้น 55.4% จากปีก่อนที่กำไรสุทธิ 5,868 ล้านบาท
สำหรับสัดส่วนรายได้ปัจจุบันของ OR แบ่งเป็น 91% มาจากกลุ่มธุรกิจน้ำมัน 5.5% มาจากกลุ่มธุรกิจต่างประเทศ และอีก 3.3% มาจากธุรกิจ Non-Oil แต่หากเป็นสัดส่วน EBITDA 77.4% มาจากกลุ่มธุรกิจน้ำมัน 18.8% มาจากธุรกิจ Non-Oil และอีก 3.7% มาจากกลุ่มธุรกิจต่างประเทศ
ฐานะทางการเงินบริษัท ณ 30 กันยายน 2564 มีสินทรัพย์รวม 191,619 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.2% จากสิ้นปี 2563 โดยส่วนใหญ่มาจากเงินสดสุทธิที่ได้รับจากการเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 53,497 ล้านบาท ขณะที่มีหนี้สินรวมจำนวน 94,747 ล้านบาท ลดลง 11.5%
ทั้งนี้ ข้อมูลจากกรมธุรกิจพลังงาน (เดือนมกราคม – กันยายน 2564) สถานีบริการน้ำมัน PTT Station ยังคงรักษาส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 โดยมีสัดส่วนอยู่ที่ 41.8% และปัจจุบันมีจำนวนสาขามากถึง 2,042 สถานี
จุดที่น่าสนใจอีกอย่างคือ ธุรกิจ Non-Oil ที่ปัจจุบันมีเครือข่ายร้านอาหารและเครื่องดื่ม 3,812 สาขา ส่วนใหญ่จะเป็น ร้านคาเฟ่ อเมซอน 3,492 สาขา รองลงมาเป็นร้านเท็กซัส ชิคเก้น ที่มีอยู่ 87 สาขา และส่วนที่เหลือจะเป็นร้านอาหารแบรนด์อื่นๆ ในเครือของบริษัท เช่น ฮั่วเซ่งฮงติ่มซำ เพิร์ลลี่ที เป็นต้น
หากมองเฉพาะไตรมาส 3/2564 จะเห็นว่าเป็นช่วงที่ OR ค่อนข้างทรงๆ พอสมควร สะท้อนมาถึงราคาหุ้นก่อนหน้านี้ที่ค่อยๆ ปรับตัวลดลงอย่างหนัก แต่ในภาพรวมแล้วจะเห็นว่า OR ยังคงแข็งแกร่งอยู่ และผลการดำเนินงานไตรมาส 3/64 ก็น่าจะเป็นจุดต่ำสุดของปีแล้ว
เพราะในไตรมาส 4 จะเป็นช่วงที่อัตรากำไรน้ำมันโดยรวมจะกลับมาดีอีกครั้ง และตามธรรมชาติของธุรกิจปลายปีจะเป็นช่วงที่มีปริมาณการใช้น้ำมันในประเทศเติบโตมาก ประกอบกับข้อมูลย้อนหลังชี้ว่าค่าการตลาดราคาน้ำมันขายปลีกจะเพิ่มขึ้น หลังสิ้นสุดการตรึงราคาน้ำมันดีเซลในประเทศ ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่ออัตรากำไรของ OR ในอนาคต
หมายเหตุ : บทความนี้เพื่อใช้สำหรับศึกษาเบื้องต้นเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เปิด ‘พอร์ตธุรกิจ’ ร้านอาหารของหุ้น OR
- ปตท. รุกกลุ่มธุรกิจใหม่ ‘Life Science’
- ดีล ปตท. ลงทุนรถยนต์ไฟฟ้า วางงบ 10 ปี 5.5 แสนล้านบาท
