หุ้น GULF หากใครสังเกตความเคลื่อนไหวของหุ้น GULF หรือ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) จะเห็นว่าตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2564 เป็นต้นมา ราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้น 26.90% แล้วในเวลาเพียงเดือนครึ่ง ค่อนข้างสวนทางกับข่าวประกาศงบการเงินเลยทีเดียว

เนื่องจากผลประกอบการไตรมาส 2/2564 ของบริษัทที่แจ้งตลาด ณ วันที่ 13 สิงหาคม 2564 GULF มีรายได้รวม11,845 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 29.6% จากช่วงเดียวกันชองปีก่อน แต่มีกำไรสุทธิ 1,407 ล้านบาท ปรับลดลง 25.2% จากช่วงเดียวกันชองปีก่อน เพราะผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง และมีผลขาดทุนของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในเยอรมนี BKR2
แต่ถึงแม้ภาพรวมกำไรสุทธิในไตรมาส 2 จะดูไม่ค่อยสวยหรูนัก กลับไม่ได้สะท้อนไปถึงราคาหุ้นเท่าไหร่เลย
หุ้น GULF 2 ประเด็นที่น่าสนใจ
ประเด็นแรก… ก็คือตัวเลขกำไรที่ลดลงนั้น ก็ยังออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ หากเราดูกำไรปกติจากการดำเนินงานที่ไม่รวม FX (อัตราแลกเปลี่ยน) จะเห็นว่า GULF มีกำไรปกติโต 42% เพราะปีก่อนบริษัทมีกำไร FX สูงถึง 900 ล้านบาท
ประเด็นที่สอง… นั่นคือสตอรี่ที่นักลงทุนมองไกลไปถึงกำไรในช่วงครึ่งปีหลัง และมีโอกาสที่ในไตรมาส 3/2564 บริษัทจะทำกำไรระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากปัจจัยหนุนหลังจากที่ GULF ทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์หุ้น INTUCH สำเร็จ และจะบุ๊กเงินปันผลเข้ามาจำนวนมาก ประกอบกับหลายโครงการที่มีแผน COD ในครึ่งหลังของปีนี้
โบรกฯ ประสานเสียง ไตรมาส 3 สดใส
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง เปิดเผยว่า ราคาหุ้น GULF ในปัจจุบันยังมีอัพไซต์ต่อกำไรระยะยาว และการที่ได้ถือหุ้นใหญ่ใน INTUCH จะส่งผลบวกต่อกำไรของ GULF ในไตรมาส 3/64 ที่คาดว่ากำไรจะทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายพื้นฐาน 47 บาท/หุ้น
ขณะที่นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ก็มองตรงกันว่าแนวโน้มกำไรไตรมาส 3/2564 ของ GULF จะเพิ่มขึ้นราวเท่าตัว จากเงินปันผลของ INTUCH ที่บริษัทเข้าถือหุ้น 42.25% ประเมินว่าการที่ INTUCH ประกาศจ่ายเงินปันผล 1.23 บาท/หุ้น ทำให้ GULF รับรู้รายได้เงินปันผลก้อนใหญ่ราว 1,700 ล้านบาทเข้ามาในไตรมาส 3 นี้
นอกจากนี้ GULF อยู่ระหว่างก่อสร้างโรงไฟฟ้า ซึ่งมีกำหนด COD ได้แก่ 1. โครงการ GSRC หน่วยที่ 2 จำนวน 662.5 MW ในวันที่ 1 ตุลาคม 2. โครงการ DIPWP ประเทศโอมาน จำนวน 40 MW ประมาณปลายปี 2564 และ 3.โครงกการพลังงานลม ประเทศเวียดนาม จำนวน 30 MW ในเดือนสิงหาคม และอีก 98 MW ในเดือนตุลาคม จึงคงคำแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ที่ราคาเป้าหมาย 43.58 บาท/หุ้น
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่กรุ๊ป ระบุว่า แม้กำไรไตรมาส 2/2564 ของบริษัทจะลดลง แต่หากไม่รวมรายการพิเศษ ถือว่ากำไรปกติของ GULF ยังสามารถเติบโตแข็งแกร่ง และทิศทางผลประกอบการไตรมาส 3 ก็น่าจะดีขึ้นจากการรับรู้เงินปันผลจาก INTUCH จำนวนมาก โดยฝ่ายวิเคราะห์ประเมินไว้ที่ 1,600 ล้านบาท โดยให้คำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 43 บาท/หุ้น
GULF อาณาจักธุรกิจ มูลค่าล้านล้านบาท
เมื่อก่อนถ้าจะพูดถึงกลุ่มธุรกิจในตลาดหุ้นไทยที่มีมูลค่าระดับหลักแสนล้าน หรือ ล้านล้าน ก็จะมีชื่อของ กลุ่มปตท. กลุ่มซีพี และกลุ่มเซ็นทรัล แต่ตอนนี้ GULF กลายเป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่ก้าวเข้ามาติดทำเนียบนี้แล้ว หลังจากการเข้าลงทุนในกลุ่ม INTUCH ซึ่งเมื่อรวมมูลค่าบริษัททั้งหมด สูงถึง 1.33 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นดังนี้
ถือว่าเป็นกลุ่มที่น่าจับตาอย่างมาก ด้วยภาพของการเป็น Flagships ด้านธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานในประเทศ โดยผสาน 2 ฝั่งเข้าด้วยกัน นั่นคือ GULF ที่ประกอบด้วยธุรกิจผลิตไฟฟ้า ธุรกิจก๊าซ ธุรกิจพลังงานหมุนเวียน ธุรกิจพลังงานน้ำ และธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค รวมกับ ADVANC INTUCH THCOM ที่เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของประเทศ
หมายเหตุ : บทความนี้เพื่อใช้สำหรับศึกษาเบื้องต้นเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- GULF กำไรไตรมาส 2 ปี 2564 โต 42% คาดไตรมาส 3 รับปันผลอินทัช 1.6 พันล้าน
- อนาคต ‘INTUCH’ หลังเปลี่ยนมือ ผู้ถือหุ้นใหญ่เป็น ‘GULF’
- กัลฟ์ กำไรไตรมาสแรกปี 64 พุ่ง 158% ทะลุ 2,390 ล้านบาท