เราจะเห็นว่ามีธุรกิจอาหารและเครื่องมือมากมายที่เข้ามาเป็นคู่ค้าวางสินค้าจำหน่ายในร้าน 7-Eleven แต่ถ้าจะพูดถึงธุรกิจที่ได้รับประโยชน์อย่างเห็นได้ชัดจากการเติบโตของ 7-Eleven ตอนนี้มีหุ้นอยู่ 2 ตัวที่โมเดลธุรกิจคล้ายกันมาก นั่นคือ TACC บริษัท ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) และ NSL บริษัท เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน)
ธุรกิจหลักของทั้งคู่คือการร่วมเป็นพาร์ทเนอร์รับจ้างผลิตสินค้าและจำหน่ายเฉพาะ 7-Eleven เท่านั้น โดยมีการทำสัญญาระหว่างกัน ซึ่งถือว่าเป็น Business Model ที่มีความน่าสนใจมากทีเดียว วันนี้เราเลยอยากพาทุกคนไปรู้จักหุ้น TACC และ NSL กันให้มากขึ้น
หุ้น TACC ผู้ผลิตเครื่องดื่มโถกดและ All Café
ขอเริ่มกันที่หุ้น TACC ที่ทำธุรกิจจำหน่ายเครื่องดื่มโถกด หรือ Dispenser Drink ให้กับ 7-Eleven เพียงรายเดียวในประเทศไทย อีกทั้งบริษัทยังเป็นผู้ผลิตผงสำเร็จรูปพร้อมชง เช่น โกโก้ ชานม ชาเขียว ชามะนาว และเครื่องดื่มผสมผลไม้ต่างๆ ให้ร้าน All Café อีกด้วย
รูปแบบการทำธุรกิจระหว่าง TACC กับ CPALL เป็นการวิจัยและพัฒนาสินค้าร่วมกัน (B2B) มาตั้งแต่ปี 2545 หรือ 19 ปีแล้ว ตอนแรกเป็นเพียงเครื่องดื่มโถกดแบบเย็น จนปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ต่อยอดหลากหลายมากขึ้น เช่น เครื่องชงร้อนอัตโนมัติ ผงสำเร็จรูปพร้อมชง เครื่องดื่มบรรจุขวด และธุรกิจคาแรคเตอร์ที่นำลิขสิทธิ์การ์ตูนชื่อดังมาผลิตของระลึกขายใน 7-Eleven
ทีนี้ในแง่ผลประกอบการ TACC พึ่งพารายได้จากการขายสินค้าให้ CPALL คิดเป็นสัดส่วน 90% ของรายได้ทั้งหมด ซึ่งในอนาคตบริษัทมีแผนจะลดสัดส่วนรายได้ตรงนี้ให้เหลือ 70% และเพิ่มรายได้จากฝั่ง B2C เป็น 30% ด้วยการพัฒนาเครื่องดื่มบรรจุขวดและผงชงสำเร็จรูปที่เป็นแบรนด์ของตัวเอง
หุ้น NSL ผู้ผลิตแซนด์วิชอบร้อน Ezy
คราวนี้มารู้จัก NSL กันบ้าง บริษัทที่เป็นผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูปให้กับ 7-Eleven สินค้าที่เรารู้จักกันดีก็นั่นคือ แซนด์วิชอบร้อนทรงสามเหลี่ยมที่มีไส้ต่างๆ มากมาย รวมถึงยังมีขนมปัง เบเกอรี่ ขนมขบเคี้ยว เนื้อสัตว์ และผักแช่แข็ง ภายใต้แบรนด์ Ezy Taste, Ezy Sweet, Ezy Baked และ 7 Fresh
NSL เริ่มเป็นพาร์ทเนอร์กับ CPALL ตั้งแต่ปี 2549 ในการทำวิจัยและคิดรสชาติร่วมกัน จนมีสินค้าแซนด์วิชอบร้อนวางขายอย่างเป็นทางการในปี 2552 และบริษัทเซ็นสัญญา MOU กับ CPALL ไปจนถึงปี 2569 ว่าห้ามขายสินค้าแบบนี้ให้กับที่อื่น ขณะเดียวกัน 7-Eleven ก็ห้ามเอาสินค้าแบบนี้มาวางขายด้วยเช่นกัน
สำหรับสัดส่วนรายได้ของ NSL ที่มาจาก CPALL ตอนนี้สูงถึง 94% ของรายได้ทั้งหมด ที่เหลืออีก 6% มาจากธุรกิจ Food Service ที่เป็นการนำเข้าอาหารทะเล เนื้อสัตว์ และผักแช่แข็ง จำหน่ายให้กับโรงแรม อาหาร และซูปเปอร์มาร์เก็ต บริษัทตั้งเป้าว่าจะเพิ่มรายได้จาก Food Service เป็น 30% ในอนาคต
หมายเหตุ : ข้อมูล ณ วันที่ 10 ก.ค. 2564
TACC และ NSL ถือเป็นบริษัทที่มีโมเดลธุรกิจชัดเจนมาก จากการได้รับประโยชน์ตามการเติบโตไปด้วยกันกับสาขาของ 7-Eleven ซึ่งก็ต้องบอกว่าเป็นจุดที่ผู้ประกอบการอาหารและเครื่องดื่มในประเทศไทยจำนวนมากอยากมีโอกาสแบบนี้บ้าง
แต่อย่างไรก็ตาม โอกาสก็มาพร้อมความเสี่ยง เนื่องจากการมีลูกค้าหลักเพียงรายเดียว จึงมีอำนาจต่อรองต่ำ และอนาคตก็ไม่แน่นอนว่าความสัมพันธ์ทางธุรกิจจะราบรื่นแบบนี้อีกนานแค่ไหน เป็นประเด็นที่ทาง TACC และ NSL มองเห็นเช่นกัน และพยายามลดความเสี่ยงตรงนี้อยู่ ด้วยการพยายามเพิ่มสัดส่วนรายได้จากทางอื่นนั่นเอง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘กูรู’ คัดหุ้นเด่นไม่กลัว ‘ล็อกดาวน์’ ฟื้นตัวเร็วครึ่งหลังปี 64
- ‘RATCH – BANPU’ หุ้นพลังงานเพิ่มทุน ทำไมราคาถึงลงแรง?
- ‘DELTA’ ฮอตสุด แชมป์หุ้นแม่ที่นักลงทุนเทรด DW