เทียบฟอร์ม 3 หุ้นวัสดุก่อสร้าง HMPRO – DOHOME – GLOBAL ยังเป็นกลุ่มที่ค่อนข้างมีพื้นฐานมั่นคงอยู่ ปัจจุบันหุ้นกลุ่มวัสดุก่อสร้างมีส่วนแบ่ง Market Cap. ในตลาดหุ้นไทยประมาณ 18%
จะเห็นว่าช่วงนี้กระแสการลงทุนในหุ้นวัฏจักรเริ่มกลับมาอีกครั้ง เพราะทิศทางเศรษฐกิจที่ดูจะเริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้น ขณะเดียวกันการประกาศตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของเดือนเมษายน ก็พลิกกลับมาเป็นบวกในรอบ 14 เดือนนับตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 ขยายตัวอยู่ที่ 3.41% ถือเป็นสัญญาณสำคัญที่บอกว่ากำลังซื้อคนในประเทศเริ่มกลับมาแล้ว
หุ้นกลุ่มหนึ่งที่น่าสนใจตอนนี้ก็คือ “กลุ่มวัสดุก่อสร้างและซ่อมแซมบ้าน” เนื่องจากจะได้รับประโยชน์จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น และยังเป็นกลุ่มที่ค่อนข้างมีพื้นฐานมั่นคงอยู่แล้ว ปัจจุบันหุ้นกลุ่มวัสดุก่อสร้างมีส่วนแบ่ง Market Cap. ในตลาดหุ้นไทยประมาณ 18%
วันนี้เลยอยากจะพาเทียบฟอร์มโครงสร้างรายได้ 3 หุ้นวัสดุก่อสร้างใน Segment ค้าปลีก โดยมีด้วยกัน 3 หุ้นใหญ่ที่ทุกคนน่าจะรู้จักกันดี ได้แก่ HMPRO บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน), DOHOME บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) และ GLOBAL บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)
โครงสร้างรายได้ของธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง มาจากสองส่วนหลักๆ คือ รายได้การบริการซ่อมแซม และรายได้จากการขายสินค้า ทั้งนี้ในพาร์ทของการขายสินค้าก็ยังแยกย่อยได้เป็นสินค้าของแบรนด์อื่นที่บริษัทรับมาขายต่ออีกที ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องการความน่าเชื่อถือจากผู้บริโภค
ส่วนอีกประเภทจะเป็นสินค้า House Brand ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่บริษัทเป็นผู้ผลิตเอง และสินค้า House Brand สามารถทำมาร์จินได้สูงกว่า โดยให้อัตรากำไรขั้นต้นราว 30 – 35% มากกว่าสินค้าทั่วไปที่อยู่ประมาณ 15% เท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นความยากของสินค้า House Brand คือการทำการตลาดนั่นเอง
ลองมาดูกันว่า HMPRO, DOHOME และ GLOBAL มีสัดส่วนรายได้จากสินค้า House Brand และสินค้าทั่วไป เป็นอย่างไรบ้าง
– GLOBAL : สินค้า House Brand 20% สินค้าทั่วไป 80%
– HMPRO : สินค้า House Brand 19.5% สินค้าทั่วไป 80.5%
– DOHOME : สินค้า House Brand 16.5% สินค้าทั่วไป 83.5%
จะเห็นว่าจากสัดส่วนการขายสินค้า House Brand ค่อนข้างสอดคล้องกับอัตรากำไรที่แต่ละบริษัททำได้ทีเดียว นั่นเพราะว่า HMPRO และ HMPRO มีอัตรากำไรที่สูงกว่า DOHOME แบบชัดเจนจากสัดส่วนสินค้า House Brand ที่มากกว่า
– HMPRO อัตรากำไรขั้นต้น 25.45% อัตรากำไรสุทธิ 8.35%
– GLOBAL อัตรากำไรขั้นต้น 23.76% อัตรากำไรสุทธิ 7.14%
– DOHOME อัตรากำไรขั้นต้น 15.22% อัตรากำไรสุทธิ 3.84%
เกมการแข่งขันในการพัฒนาสินค้า House Brand ของตัวเองให้เป็นที่ยอมรับของตลาดและผู้บริโภค ดูจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะมาผลักดันการเติบโตด้านรายได้ และกำไรของธุรกิจขายสินค้าวัสดุก่อสร้างในปัจจุบันเลยก็ว่าได้ เพราะเราเห็นโมเดลความสำเร็จมาแล้วจากแบรนด์ชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ อาทิ IKEA และ Index Living Mall
อย่างไรก็ดี ยังมีอีกปัจจัยหนึ่งก็คือการสร้างการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (Same Store Sales Growth : SSSG) เพราะในช่วงนี้อาจจะไม่ใช่เวลาที่เหมาะแก่การขยายสาขาใหม่เท่าไหร่นัก ดังนั้น สิ่งที่จะตัดสินว่าใครมีความสามารถแข่งกันได้ดีกว่ากัน คงหนีไม่พ้นการต่อยอดของที่ตัวเองมีอยู่ให้ดีขึ้นนั่นเอง ซึ่งเมื่อผลประกอบการไตรมาสแรกของปีนี้ออกมา เราคงได้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นของ HMPRO, DOHOME และ GLOBAL
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- งบ 5 หุ้นบิ๊กเทค กลุ่ม FAANG ที่ยังโตระเบิด
- ไม่มีเดือนไหนหุ้นแดงทุกปี แต่พ.ค. ต้องระวังที่สุด!!
- เจาะงบ DELTA ไตรมาสแรกปี 64 ยังแรงต่อเนื่อง!