Stock - Finance

เจาะงบ DELTA ไตรมาสแรกปี 64 ยังแรงต่อเนื่อง!

หุ้นขวัญใจมหาชน DELTA หรือ บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ที่ราคาร้อนแรงที่สุดของปีที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทได้รายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 1/2564 ออกมาแล้ว มาสำรวจกันว่าตอนนี้สินค้าของ Delta ยังเป็นเทรนด์และอยู่ในความต้องการของตลาดแค่ไหน 

ก่อนอื่นขอย้อนกลับไปดูผลประกอบการปี 2563 ที่โตก้าวกระโดด ตามการเติบโตของกลุ่มเทคโนโลยีทั่วโลก ทำให้ธุรกิจจำหน่ายชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ของบริษัทได้รับประโยชน์เต็มๆ

ทั้งนี้ปี 2563 DELTA มีรายได้รวม 64,275 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.85% กำไรสุทธิ 7,101 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 139.92% และยังมีอัตรากำไรสุทธิที่สูงถึง 11.05% 

ส่งนผลให้ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น DELTA ตลอดปี 2563 ทยานขึ้นต่อเนื่อง ปรับสูงขึ้นถึง 1,350% สร้างปรากฏการณ์หุ้น 10 หุ้นเด้งภายในปีเดียวอย่างที่เราได้เห็นกัน 

ผลประกอบการ delta 2563

ผลประกอบการ delta 25631

หุ้น DELTA ขึ้นสู่สุดพีค (All Time High) ที่ 748 บาท/หุ้น เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2564 ก่อนค่อยๆ ปรับตัวลดลงเรื่อยๆ วิ่งอยู่ในช่วง 350-380 บาท/หุ้น ซึ่งก็ต้องบอกว่าเป็นราคาจิตวิทยาที่ดึงดูดให้หลายคนอยากเข้าไปเก็บหุ้นเหมือนกัน เพราะเริ่มใกล้เคียงมูลค่าพื้นฐานที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

DELTA กำไรไตรมาสแรก พุ่ง 112%

สำหรับภาพรวมผลประกอบการไตรมาส 1/2564 บริษัทมียอดขายสินค้าและบริการ 19,039 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 49.3% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากแนวโน้มความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นมาก จากสินค้าในกลุ่มพาวเวอร์ซัพพลาย สำหรับเครื่องมือช่าง การรับฝากข้อมูลบนคลาวด์ ระบบศูนย์ข้อมูล และระบบเครือข่าย รวมถึงโซลูชันสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า

ส่งผลให้ตัวเลขกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,756 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 112.1% จากปีก่อน เนื่องจากการเติบโตของรายได้ที่ยังสูงกว่าค่าใช้จ่าย โดยค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารในไตรมาสนี้มีจำนวน 2,731 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.1% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 

ถือว่าตัวเลขไตรมาสนี้ยังสวยงามโดดเด่นทีเดียว แสดงให้เห็นว่าสินค้าของบริษัท โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไฟฟ้า และระบบ Data กำลังเป็นเทรนด์ที่มีความต้องการระดับโลก และน่าจะมาช่วยหนุนผลงานในอนาคตให้ดีต่อเนื่องไปได้

DELTA วางเป้าปีนี้ โต 10% ขยายสถานีชาร์จ EV 

เจาะงบเดลต้า

นายแจ็คกี้ จาง ประธานบริหาร DELTA เปิดเผยว่า เป้าหมายยอดขายปีนี้จะเติบโต 10% ถือเป็นธงที่เราอยากไปให้ถึง และเป็นความท้าทาย เนื่องจากยังมีปัจจัยที่ไม่แน่นอนต้องติดตาม ทั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมถึงการนำเข้าวัสดุต่างๆ ด้วย  แต่บริษัทจะได้รับปัจจัยหนุนจากความต้องการสินค้าของกลุ่มพลังงานสะอาด และกลุ่มธุรกิจ Data Center ที่จะมีความต้องการขยายงานอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ จะเดินหน้าลงทุน Internet of Things(IoT) พลังงานหมุนหมุนเวียน และขยายสถานีชาร์จอย่างต่อเนื่อง เพราะเห็นโอกาสที่จะเติบโตได้ดีในอนาคต

ด้านราคาหุ้นของบริษัทที่เคลื่อนไหวผันผวนรุนแรง มองว่าเป็นไปตามกลไกตลาด และตนคงไม่สามารถไปกำหนดอะไรได้ สิ่งที่ทำได้คือ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทเท่านั้น 

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight