หุ้นเทิร์นอะราวด์ (Turnaround) หมายถึงหุ้นที่สามารถพลิกฟื้นกลับขึ้นมาทำกำไรให้นักลงทุนอีกครั้งหลังจากเงียบเหงาไปนาน ถือว่าเป็นหุ้นที่เล่นยากที่สุดในตลาด เพราะเสน่ห์ของหุ้นกลุ่มนี้ คือ การทนรอให้ธุรกิจผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก และพบจุดเปลี่ยนจนสามารถสร้างผลประกอบการที่แข็งแกร่ง
ถ้าจะถามว่าเวลานี้หุ้นตัวไหนที่กำลังเข้าข่ายจะกลับมา Turnaround มากที่สุด เชื่อว่าหนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของ BANPU หรือ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายถ่านหินอันดับหนึ่งของไทย รวมถึงยังเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้ารายใหญ่
ย้อนอดีต BANPU ความยิ่งใหญ่ของถ่านหิน
ย้อนกลับไปเมื่อสัก 10 ปีที่แล้ว BANPU เคยเป็นหุ้นยอดนิยมของตลาด ราคาหุ้นวิ่งไปถึง 700 บาท (ราคาหลังแตกพาร์คือ 70 บาท) เรียกว่าเป็นช่วงที่รุ่งเรืองของ BANPU เอามากๆ แถมมีบางช่วงที่มูลค่าหลักทรัพย์สูงกว่า AOT อีกด้วย
เรียกว่าตอนนั้นเป็นหุ้นที่มั่นคงสุดๆ ใครๆ ก็ต้องซื้อ เนื่องจากรายได้ที่แข็งแกร่งจากการขายถ่านหิน ซึ่งเวลานั้นเป็นเชื้อเพลิงสำคัญที่ไม่ว่าจะเป็นโรงไฟฟ้า โรงงานซีเมนต์ โรงงานกระดาษ จำเป็นต้องใช้
ก่อนที่ราคาหุ้นจะไหลลงเรื่อยๆ จนมาอยู่แถว 10 บาท อย่างในปัจจุบัน สาเหตุที่แบบนี้มาจากสถานการณ์ราคาถ่านหินที่เป็นช่วงขาลงอย่างต่อเนื่อง เพราะนโยบายพลังงานสะอาดทั่วโลก และการลดใช้พลังงานถ่านหินในประเทศจีนซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่นั่นเอง
ช่วงพีคของ BANPU ในปี 2554 มีรายได้รวมที่ 127,428 ล้านบาท กำไรสุทธิ 20,059 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 42.60% แต่ล่าสุดในปี 2563 บริษัทมีรายได้รวม 80,422 ล้านบาท และมีผลขาดทุนสุทธิ 1,786 ล้านบาท สำหรับใครที่ถือหุ้นมาตั้งแต่ตอนนั้น คงเป็นความรู้สึกกลืนไม่เข้าคลายไม่ออก
นอกจากนี้ บริษัทยังเจอผลกระทบจากกรณีข่าวโรงไฟฟ้าหงสาในประเทศลาวที่ถูกคู่กรณีฟ้องเรียกค่าเสียหาย ทำให้ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้ถือหุ้นพอสมควร
จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของ BANPU
BANPU ในวันนี้อาจจะไม่ใช่หุ้นท็อปฮิตที่ใครๆ ก็พูดถึง แต่หากสังเกตให้ดีปัจจุบัน BANPU มีความเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจไม่น้อย และทิศทางราคาหุ้นดูเหมือนเริ่มกลับมาเป็นขาขึ้นอีกครั้ง คำถามคืออะไรเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการกลับมารอบนี้ มาดูกัน
1. เปลี่ยนธุรกิจสู่พลังงานสะอาด
ถึงปัจจุบันถ่านหินยังเป็น 70% ของรายได้ทั้งหมดอยู่ แต่ BANPU กำลังเร่งสปีดพอร์ตพลังงาน เพื่อสิ่งแวดล้อมให้มากขึ้น ตามนโยบาย Banpu Transformation ที่จะขยายกำลังการผลิตพลังงานสะอาดในจีน ญี่ปุ่น และเวียดนาม รวมถึงการซื้อแหล่งก๊าซธรรมชาติขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ และการลุกสู่ธุรกิจให้บริการรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งทั้งหมดนี้จะพา BANPU ก้าวสู่ธุรกิจยุคใหญ่ที่กลายเป็นเมกะเทรนด์แห่งอนาคต
2. ราคาถ่านหินมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
ในปี 2564 แนวโน้มของราคาถ่านหินมีโอกาสเป็นขาขึ้นต่อเนื่องตามการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมัน และมาตรการผ่อนคลายเกณฑ์การนำเข้าถ่านหินของประเทศจีน ซึ่งราคาถ่านหินเพิ่มทุก 1 ดอลลาร์ หนุนกำไรให้บริษัทเพิ่มขึ้น 3% ดังนั้นโอกาสที่จะขาดทุนด้วยธุรกิจถ่านหินแบบในอดีตอาจจะมีน้อยแล้ว
3. ราคาหุ้นกลับมาเป็นอัพไซด์
จริงๆ แล้วภาพการฟื้นตัวของหุ้น BANPU เริ่มชัดเจนมาตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว หลังจากที่ราคาหุ้นลงไปต่ำสุดที่ 5 บาท ก่อนจะพลิกกลับเป็นขาขึ้นมาเรื่อยๆ ถ้านับตั้งแต่กันยายน 2563 จนถึงตอนนี้ ราคาหุ้น BANPU ฟื้นมาแล้วถึง +117%
สถานการณ์ของ BANPU เวลานี้ เริ่มเห็นโอกาสการเติบโตอยู่มาก จากการปรับธุรกิจวิ่งเข้าหาโอกาสใหม่ๆ แต่อย่างไรก็ดี ต้องคอยมาลุ้นกันว่าภาพนี้จะอยู่อีกนานแค่ไหน และจะทำให้ BANPU กลับไปสู่ยุครุ่งเรืองแบบในอดีตได้หรือเปล่า
หมายเหตุ | บทความนี้ไม่ได้มีเจตนาชี้นำหรือแนะนำให้ซื้อ ถือหรือขายหุ้นแต่อย่างใด ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- วัคซีนมาแล้ว!! เช็คหุ้น Top Picks รับแผนเปิดประเทศ
- ถอดรหัสลงทุน เปิด 2 หุ้นในดวงใจ ‘เสี่ยยักษ์’
- ส่องพอร์ตหุ้นประกันสังคม ‘กำไร-ขาด’ แค่ไหน?
