“ทรู” พลิกมีกำไรจากธุรกิจหลัก การควบรวม “DTAC” เริ่มเห็นผล ผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2567 รายได้จากการขายและบริการ 5.1 หมื่นล้าน
นักลงทุนในตลาดหุ้นจะทราบกันดีว่า TRUE หรือ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นธุรกิจยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคม ที่ประสบภาวะการขาดทุนมาอย่างยาวนาน เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการลงทุนที่สูง และอยู่ในสนามการแข่งขันที่รุนแรงของตลาดมือถือเมืองไทย
หากย้อนดูงบการเงินของบริษัท จะเห็นว่า TRUE ขาดทุนต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2564 และขาดทุนติดต่อกันหลายไตรมาสเลยทีเดียว อย่างไรก็ดี เราเริ่มเห็นสัญญาณที่ดูดีขึ้น หลังจากที่บริษัทประสบความสำเร็จกับดีลใหญ่ ในการร่วมทุนกับ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC ได้สำเร็จในช่วงต้นปี 2566 ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าจะช่วยหนุนธุรกิจ TRUE กลับมามีกำไรอีกครั้ง จากการ Synergy ที่เกิดขึ้น
สรุปผลประกอบการไตรมาส 1/67
TRUE ประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 1 ปี 2567 รายได้จากการขายและบริการ 5.1 หมื่นล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 1.1% QoQ และเพิ่มขึ้น 5.2% YoY โดยเป็นการดีขึ้นของทุกกลุ่มธุรกิจที่โตจากปีก่อน ได้แก่
ธุรกิจมือถือ รายได้อยู่ที่ 3.24 หมื่นล้านบาท เติบโต 4.7%
ธุรกิจบรอดแบรนด์ รายได้อยู่ที่ 6.2 พันล้านบาท เติบโต 7.9%
ธุรกิจเคเบิลทีวี รายได้อยู่ที่ 1.75 พันล้านบาท เติบโต 5.5%
ขณะเดียวกันบริษัทยังสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้มีประสิทธิภาพ จาก SG&A ต่อยอดขาย ที่ลดลงเหลือ 11.4% จากเดิมที่อยู่ราว 15.4% ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาสนี้ขยับไปอยู่ที่ 23% จากเดิมทำได้ประมาณ 20% ซึ่งปัจจัยสำคัญมาจากการ Synergy ที่เกิดขึ้นกับ DTAC
ทว่าเมื่อดูที่บรรทัดสุดท้าย TRUE กลับยังคงมีผลขาดทุนสิทธิในไตรมาส 1/2567 ที่ระดับลดลง 769 ล้านบาท แต่เหตุผลที่ขาดทุนนั้นมาจากรายการพิเศษที่เป็นรายจ่ายมากถึง 1.6 พันล้านบาท ส่วนใหญ่คือการด้อยค่าสินทรัพย์ ซึ่งเกิดขึ้นครั้งเดียวจากการตัดเสาสัญญาณที่ซ้ำซ้อนกันออก
แปลว่าหากมองเฉพาะกำไรหลัก TRUE จะมีกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 766 ล้านบาท สะท้อนถึงแนวโน้มผลประกอบการที่ฟื้นตัวขึ้นอย่างชัดเจน
ราคาหุ้น TRUE ตอบรับข่าวดี
ภายหลังการรายงานงบไตรมาส 1/2567 ราคาหุ้น TRUE ก็บวกสวนทันที นับตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2567 จนถึงปัจจุบัน (8 พ.ค.67) ราคาหุ้นทะยานตัวขึ้นกว่า 8% และเมื่อดูความเคลื่อนไหวตั้งแต่ต้นปี พบว่าราคาหุ้น Outperform ตลาดพอสมควร โดย +68.27% ถือว่าเป็นการวิ่งเข้าสู่ช่วงขาขึ้นเต็มตัว
มุมมองนักวิเคราะห์ โอกาสในหุ้น TRUE
บล. เมย์แบงก์ ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” TRUE และเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 9.20 บาทต่อหุ้น จากโมเมนตัมกำไรรายไตรมาสที่แข็งแกร่ง หลังทำกำไรหลักไตรมาส 1/2567 ดีกว่าคาดที่ 768 ล้านบาท และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.3 พันล้านบาทในไตรมาส 2/2567
ขณะที่หุ้นแม้จะปรับตัวขึ้นมาเยอะนับตั้งแต่ต้นปี แต่ยังมีราคาถูก เพราะว่า TRUE ซื้อขายที่ EV/EBITDA ปี 2567 ที่ 7.3 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของผู้ให้บริการโทรคมนาคมในอาเซียนที่ 7.7 เท่า ถึง 5%
นอกจากนี้ ผลของจาก Synergy ทำให้เกิดการประหยัดต้นทุน ส่งผลบวกต่อ EBITDA มูลค่า 2 พันล้านบาท ในช่วง 4 ไตรมาสที่ผ่านมา แสดงว่า TRUE สร้าง synergy ได้เพิ่มเฉลี่ย 500 ล้านบาทต่อไตรมาส อีกทั้งประเมินว่าค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจจะลดลงในไตรมาสต่อ ๆ ไป สะท้อนมาจากการลดจำนวนเสาลง ลดค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ และลดค่าใช้จ่ายด้านการตลาด
สรุปแล้วนับเป็นการพลิกโฉมที่น่าสนใจทีเดียวสำหรับ TRUE ด้วยภาพของผลประกอบการที่แข็งแกร่งและฟื้นตัวอย่างชัดเจน หลังปล่อยให้นักลงทุนรอคอยมาอย่างยาวนาน ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่ตลาดหวังต่อไปก็คือการไม่กลับไปขาดทุนอีกครั้ง สามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างเหมาะสมกับการเป็นหุ้นขนาดใหญ่
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ทรู เปิดผลประกอบการไตรมาส 1/2567 กำไร 802 ล้านบาท EBITDA เพิ่มขึ้น 5 ไตรมาสติด
- ทรู เดินหน้าปี 67 ดึง AI มอบประสบการณ์ระดับเวิลด์คลาส ประกาศ 3 กลยุทธ์ เติบโตยั่งยืน ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล
- เปิดผลประกอบการ ‘ทรู คอร์ปอเรชั่น’ เติบโตทั้งรายได้ กำไร ลูกค้า หลังควบรวมกิจการ
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- X (Twitter): https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg