Stock - Finance

มองแนวโน้ม ‘CPF’ ปี 2567 พลิกทำกำไรได้ไหม?

มองแนวโน้ม “CPF” ปี 2567 พลิกทำกำไรได้ไหม? บทวิเคราะห์ หลายสำนักมองตรงกันเรื่องนี้!!

ในปี 2566 บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน)  หรือ CPF เผชิญกับความท้าทายมากมาย โดยบริษัทมีรายได้จากการขาย 585,844 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 4.6% จากปี 2565 แต่จุดที่น่ากังวลเป็นผลขาดทุนสุทธิกว่า 5,207 ล้านบาท พลิกจากปีก่อนที่เคยมีกำไร 13,969.55 ล้านบาท

ปัจจัยหลักที่ทำให้ CPF ขาดทุน หลัก ๆ คือเรื่องปัญหาราคาเนื้อสัตว์ตกต่ำ เนื่องจากปัญหาหมูเถื่อนล้นตลาด ส่งผลให้ราคาเนื้อหมูในประเทศปรับลดลงโดยเฉลี่ยประมาณ 31% เมื่อเทียบกับปี 2565 เป็นระดับราคาที่ต่ำกว่าต้นทุนการเลี้ยง

จะเห็นว่าในปีที่ผ่านมา ต้นทุนการผลิตของ CPF สูงขึ้นด้วย เพราะราคาวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตอาหารสัตว์ และค่าใช้จ่ายพลังงานที่สูงขึ้น ขณะที่กําลังซื้อในประเทศยังอ่อนแอ ทำให้ไม่สามารถปรับราคาสินค้าให้สะท้อนต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้ จึงส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทลดลงเหลือ 9.2% จากเดิมที่ทำได้ราว 10-11%

มองแนวโน้ม

นี่เป็นการขาดทุนครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปีของ CPF กับอุตสาหกรรมอาหาร ที่ขึ้นชื่อว่ามีความมั่นคงสูง แต่เหมือนว่าวันนี้ภาพบางอย่างจะเปลี่ยนแปลงไป ด้วยปัจจัยแวดล้อมภายนอกที่ยากจะควบคุม

วิเคราะห์กำไร CPF ปี 2567

คำถามสำคัญก็คือการขาดทุนในปี 2566 เป็นเพียงแค่ชั่วคราวหรือไม่ และสถานการณ์ต่างๆ เริ่มคลี่คลายไปมากแล้วหรือยัง?

บทวิเคราะห์ บล. พาย เปิดเผยว่า แนวโน้มปี 2567 น่าจะได้เห็นราคาเนื้อสัตว์ในประเทศ เริ่มฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 66-70 บาทต่อกิโลกรัม เนื่องจากได้รับผลดีจากช่วงตรุษจีนที่ผ่านมา รวมถึงความเข้มงวดในการป้องกันลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน ปัจจุบันเหลือเพียงสต็อกที่เคยเข้ามาในช่วงก่อนหน้านี้เท่านั้น

นอกจากนี้ คาดว่าราคาเนื้อหมูจะกลับไปปรับตัวโดดเด่นในช่วงครึ่งปีหลัง 2567 เป็นต้นไป เพราะเริ่มเห็นผลดีจากมาตรการลดผลผลิตของผู้เลี้ยง ประกอบกับต้นทุนการเลี้ยงสัตว์ที่ทยอยปรับตัวลดลงต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2567 ของ CPF อาจจะยังเห็นตัวเลขขาดทุนอยู่ แต่ภาพรวมทั้งปี 2567 ประเมินว่าบริษัทจะพลิกกลับมามีกำไรอีกครั้ง ที่ระดับ 3,152 ล้านบาท จึงแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” หุ้น CPF เพราะมองว่าผลประกอบการผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว ประเมินมูลค่าที่เหมาะสมที่ 23.80 บาทต่อหุ้น

มองแนวโน้ม

เช่นเดียวกันกับบทวิเคราะห์ บล. เอเชียพลัส คาดว่าผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2567 ของ CPF น่าจะยังเห็นผลขาดทุน แต่เป็นการขาดทุนที่ลดลง ส่วนภาพรวมปี 2567 คาดว่าจะพลิกกลับมามีกำไร ราว 5,190 ล้านบาท สาเหตุเป็นเพราะว่ามีแผนในการปรับโครงสร้างธุรกิจ ชะลอแผนการลงทุน เน้นบริหารประสิทธิภาพให้ดีขึ้น ลดค่าใช้จ่าย และขายกิจการที่ไม่กำไรกำไรออกไป

โดยให้แนะนําการลงทุน NEUTRAL ที่ราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 23.00 บาทต่อหุ้น แม้ปี 2567 บริษัทยังมีหลายปัจจัยที่ท้าทาย ต่อการดําเนินงาน ทั้งกําลังซื้อที่ยังไม่มีแนวโน้มเติบโตชัดเจนในหลายประเทศ และปัญหาหมูเถื่อนในไทยที่ยังไม่หมดสิ้น แต่การปรับแผนดําเนินงานของบริษัทให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน จะเป็นแรงบวกที่เข้ามาสนับสนุน

เรียกว่าตอนนี้ CPF คือหุ้นใหญ่ที่อยู่ในช่วงรอยต่อทางธุรกิจก็ว่าได้ ถ้าใครติดตามความเคลื่อนไหวราคาหุ้นจะพบว่า ปรับตัวลดลงแล้วเกือบ 20% ในรอบ 1 ปี แต่อย่างไรก็ดี นี่อาจจะเป็นโอกาสของใครหลายคนที่มองว่าราคาหุ้นได้ซึบซับข่าวร้ายไปหมดแล้ว และหากสามารถพลิกกำไรได้โดดเด่นในปี 2567 แปลว่า CPF จะเข้าสู่เฟสของการทะยานอีกครั้งก็เป็นได้

 อ่านข่าวเพิ่มเติม 

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน