Stock - Finance

ส่องพื้นฐาน GC เข้ารับหรือรอก่อน หลังราคาย่อแรง

ส่องพื้นฐาน GC เข้ารับหรือรอก่อน หลังราคาย่อแรง บทวิเคราะห์ บล. พาย ประเมินว่าผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2566 ของ PTTGC น่าจะเป็นจุดตํ่าสุดของปีนี้ 

อาจไม่ใช่ช่วงที่สดใสนักของหุ้นโรงกลั่นปิโตรเคมี อย่าง บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) จำกัด หรือ GC จากราคาหุ้นที่ Underperform โดยผลตอบแทนราคาหุ้นตั้งแต่ต้นปี (20 กันยายน 2566) ปรับตัวลดลงถึง 28.34% จนล่าสุดราคาหุ้น GC อยู่ที่ 33.50 บาทต่อหุ้น หลุดระดับต่ำสุดในรอบ 52 สัปดาห์แล้ว

ความท้าทายของ GC  ในตอนนี้มาจากปัจจัยด้านอุตสาหกรรม บริษัทได้รับผลกระทบเชิงลบจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ที่ปรับลดลง และคาดว่าจะยังคงอ่อนแอในระยะสั้น เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น ท่ามกลางความต้องการที่ซบเซาหลังจากสิ้นสุดช่วงไฮซีซั่นในช่วงฤดูร้อน โดยที่ฝั่งอุปทานส่วนเกินจะคงอยู่ต่อไปในระยะยาว ทำให้ผลประกอบการของ GC ยังเจอกับภาวะขาดทุน

ราคาย่อแรง เข้ารับหรือรอก่อน

คำถามคือการที่ปัจจุบันหุ้น GC ซื้อขายกันบน P/BV ที่ 0.55 เท่า ถือว่าเป็นมูลค่า (Valuation) ที่ถูกมากเมื่อเทียบกับตลาด และยังถูกกว่าตัวเองในอดีตในรอบกว่า 10 ปี หรือนับไปจนเกือบเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็ว่าได้ แบบนี้ถือเป็นโอกาสเข้าลงทุนได้หรือยัง?

ราคาย่อแรง

คำตอบนี้อยู่บนปัจจัยพื้นฐานของบริษัทในอนาคต เราจะพามาเจาะกันทีละแกนธุรกิจว่ามีโอกาสและอุปสรรคอะไรบ้าง

บทวิเคราะห์ บล. พาย ประเมินว่าผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2566 ของ GC น่าจะเป็นจุดตํ่าสุดของปีนี้แล้ว คาดว่าจะฟื้นตัวได้ในไตรมาส 3 ดังนั้น มองว่าหุ้น GC จะสามารถพลิกฟื้นได้จากฐานที่ต่ำท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทาย

ธุรกิจต้นนํ้า: คาดผลประกอบการจะปรับดีขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมา หนุนจากค่าการกลั่นที่เพิ่มขึ้น โดยในเดือนสิงหาคม ค่าการกลั่นสิงคโปร์ปรับเพิ่มเป็น 11.4 ดอลลาร์/บาร์เรล นับเป็นจุดสูงของปีเทียบกับค่าเฉลี่ยที่ 4 ดอลลาร์/บาร์เรล ในไตรมาส 2/2566 เนื่องจากส่วนต่างราคานํ้ามันชนิดกลางที่สูงขึ้น เพราะการลดปริมาณผลิตและสต็อกที่น้อยลง แต่ส่วนต่างราคาอะโรเมติกส์และโอเลฟินส์จะทรงตัว เพราะยังอยู่ภายใต้แรงกดดันจากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอยและกําลังการผลิตส่วนเพิ่ม

 

ราคาย่อแรง

ธุรกิจโพลีเมอร์และเคมีภัณฑ์: ส่วนต่างราคาโพลีเมอร์ PE ลดลงกว่า 50 ดอลลาร์/ตัน ในไตรมาส 2/2566 ซึ่งเกิดเพราะแรงกดดันจากกําลังการผลิตใหม่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอุปสงค์ที่ฟื้นตัวช้าในประเทศจีน แต่ส่วนต่างราคาปัจจุบันมีภาพรวมไม่แน่นอนเพราะยังตํ่ากว่าจุดคุ้มทุน คาดว่าส่วนต่างราคาจะปรับเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ตามการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจด้วยมาตรการกระตุ้นในจีนและอุปสงค์ตามฤดูกาลในช่วงท้ายปี

ธุรกิจเคมีภัณฑ์สมรรถนะสูง: ผู้บริหาร GC ให้แนวทางว่าส่วนแบ่งธุรกิจนี้จะฟื้นตัวในไตรมาส 3/2566 เนื่องจากอุปสงค์ที่สูงขึ้น โดยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจลูกใหม่จะหนุนอุปสงค์ในตลาดบรรจุภัณฑ์ยานยนต์และอุตสาหกรรมก่อสร้าง

ราคาย่อแรง ค่อยๆ ฟื้นตัวภายในปี 2567

ทั้งนี้ GC ถือเป็นบริษัทที่ดําเนินกิจการหลากหลายในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี โดยบริษัทมีส่วนแบ่งกําไรก้อนใหญ่มาจากธุรกิจต้นนํ้า คิดเป็นสัดส่วน 44% ของ EBITDA ซึ่งรวมถึงหน่วยธุรกิจโรงกลั่นอะโรเมติกส์และโอเลฟินส์ นอกจากนี้ บริษัทยังทําการผลิตและจัดจําหน่ายผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์ ที่ใช้เป็นวัตถุดิบในหลายอุตสาหกรรม เช่น การผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าและบรรจุภัณฑ์

รองลงมาเป็น กลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์ สมรรถนะสูงที่เป็นองค์ประกอบสําคัญในอุตสาหกรรมยานยนต์และวิศวกรรมพลาสติก คิดเป็นสัดส่วน 22% ของ EBITDA ขณะที่ธุรกิจโพลีเมอร์และเคมีภัณฑ์คิดเป็น 16% ของ EBITDA

ราคาย่อแรง

สรุปแล้วมุมมองของบทวิเคราะห์ คือมองว่า GC จะฟื้นตัวแน่นอน แต่อาจล่าช้าไปบ้าง คาดว่าจุดเริ่มต้นจะอยู่ที่ผลประกอบการในไตรมาส 3/2566 จากผลงานกลุ่มโรงกลั่นต้นนํ้าที่ปรับตัวดีขึ้น ส่วนธุรกิจโพลีเมอร์และเคมีภัณฑ์ จะค่อยๆ ฟื้นตัวภายในปี 2567 หลังจากรอบการเพิ่มกําลังการผลิตสิ้นสุดลง ประกอบกับอุปสงค์ที่ฟื้นตัวขึ้นจากจีน ดังนั้น เมื่อพิจารณาจากการฟื้นตัวของกําไร และมูลค่าหุ้นที่ไม่แพง จึงคงคําแนะนํา “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 43 บาทต่อหุ้น

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน