Stock - Finance

เช็กที่นี่!! หุ้นไทยกำไรสูงสูงใน 8 กลุ่มอุตสาหกรรม ปี 2565

เปิดผลประกอบการประจำปี 2565 ของหุ้นที่มีกำไรสุทธิสูงสุดของ 8 กลุ่มอุตสาหกรรมในตลาดหลักทรัพย์ฯ

ภาพรวมผลประกอบการปี 2565 ของบริษัทจดทะเบียนไทย อาจจะดูไม่ค่อยสวยและผิดคาดไปพอสมควร เนื่องจากหลายบริษัทมีผลกำไรในช่วงไตรมาส 4/2565 ปรับลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในกลุ่มธนาคารพาณิชย์และธุรกิจส่งออกที่เป็นหัวใจหลักของเศรษฐกิจไทย

บทความนี้เราจึงรวบรวมผลประกอบการประจำปี 2565 ของหุ้นที่มีกำไรสุทธิสูงสุดของ 8 กลุ่มอุตสาหกรรมในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้แก่ กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร สินค้าอุปโภคบริโภค ธุรกิจการเงิน สินค้าอุตสาหกรรม อสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ทรัพยากร บริการ และเทคโนโลยี เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้นว่าหากแยกตามชนิดอุตสาหกรรมแล้ว ใครเป็นอย่างไรบ้าง

กำไรสูงสูงแต่ละอุตสาหกรรม

1. กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร (AGRO) ได้แก่ CPF หรือ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) กำไรสุทธิ 13,965.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.32% จากปีก่อนที่ทำได้ 13,028.26 ล้านบาท

2. กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค (CONSUMP) ได้แก่ หุ้น STGT หรือ บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กำไรสุทธิ 1,652.05 ล้านบาท ลดลง 1,334.83% จากปีก่อนที่ทำได้ 23,704.16 ล้านบาท

3. กลุ่มธุรกิจการเงิน (FINCIAL) ได้แก่ หุ้น SCB หรือ บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) กำไรสุทธิ 37,546.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.50% จากปีก่อนที่ทำได้ 35,589.99 ล้านบาท

4. กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม (INDUS) ได้แก่ หุ้น IVL หรือ บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) กำไรสุทธิ 31,006.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.95% จากปีก่อนที่ทำได้ 26,288.03 ล้านบาท

5. กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง (PROPCON) ได้แก่ หุ้น SCC หรือ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) กำไรสุทธิ 21,382.35 ล้านบาท ลดลง 54.67% จากปีก่อนที่ทำได้ 47,173.99 ล้านบาท

6. กลุ่มทรัพยากร (RESOURC) ได้แก่ หุ้น PTT หรือ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กำไรสุทธิ 91,174.86 ล้านบาท ลดลง 15.86% จากปีก่อนที่ทำได้ 108,363.41 ล้านบาท

ปตท.

7. กลุ่มบริการ (SERVICE) ได้แก่ หุ้น CPALL หรือ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) กำไรสุทธิ 13,271.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.20% จากปีก่อนที่ทำได้ 12,985.48 ล้านบาท

8. กลุ่มเทคโนโลยี (TECH) ได้แก่ หุ้น ADVANC หรือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) กำไรสุทธิ 26,011.28 ล้านบาท ลดลง 3.38% จากปีก่อนที่ทำได้ 26,922.15 ล้านบาท

ทั้งนี้ จะเห็นว่ามีบริษัทผู้นำในบางอุตสาหกรรมที่สามารถทำกำไรเติบโตได้ดี เช่น เกษตรและอาหาร และอุตสาหกรรม เป็นต้น ขณะเดัยวกันหลายบริษัทที่ยังคงมีกำไรติดลบอยู่ เนื่องจากต้นทุนต่างๆ ที่เพิ่มขึ้น ด้วยหลากหลายปัญหาที่สาหัสเอาเรื่องเหมือนกัน

สำหรับหุ้นกลุ่มโดดเด่นในปี 2566 ที่น่าจับตามอง คงต้องส่องเรดาร์ไปที่ค้าปลีก สื่อโฆษณา อาหารเครื่องดื่ม โรงพยาบาลใหญ่ เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า และพลังงานสะอาด นอกจากนั้นยังมีกลุ่มพัฒนาบริหารและให้เช่าพื้นที่ขนาดใหญ่ที่มีแนวโน้มค่าเช่าและอัตราการเช่าเพิ่มขึ้นตามแนวโน้มการบริโภคที่ดีขึ้น

อ่านข่าวเพิ่มเติม 

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน