Stock - Finance

วิเคราะห์หุ้น CRC โตทั้งรายได้และมาร์จิน

การบริโภคในประเทศเริ่มฟื้นตัว จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มมากขึ้น และผู้คนกลับมาเดินห้างมากขึ้นจนเป็นปกติ ส่งผลโดยตรงต่อธุรกิจของ CRC หรือ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) สำหรับ ปี 2565 สามารถกวาดรายได้รวม 236,245 ล้านบาท เติบโต 21% และมีกำไรสุทธิ 7,605 ล้านบาท เติบโตก้าวกระโดด 2,648% พร้อมทั้งมีอัตรากำไรสุทธิเพิ่มเป็น 3.22% จากปีก่อนอยู่ที่ 0.14%

เป็นการเติบโตของยอดขายใน 4 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่

1. กลุ่มแฟชั่น ยอดขายเพิ่มขึ้น 30% ด้วยการพลิกโฉมประสบการณ์ใหม่แก่ลูกค้าสู่ New Omni Fashion ที่ครบวงจรและแข็งแรงยิ่งกว่าเดิม

2. กลุ่มฟู้ด ยอดขายเพิ่มขึ้น 20% จากการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเทศเวียดนามที่รุกเปิดสาขาใหม่ของ มินิ โก (go!) และรีแบรนด์ Big C เป็น GO! mall และ GO! hypermarket รวมไปถึงการเติบโตของ Tops Market ในประเทศไทย ซึ่งหันมามุ่งเน้นการขาย

3. กลุ่มฮาร์ดไลน์ ยอดขายเพิ่มขึ้น 15% เพราะการเติบโตทั้งสาขาเก่าและสาขาใหม่ จากความต้องการวในด้านตกแต่งบ้าน การกลับเขาศึกษาในสถานศึกษาและการกลับเข้าทํางานในสํานักงานของพนักงานบริษัท ล่าสุดยังได้สร้างความสำเร็จเชิงกลยุทธ์ ด้วยการ Spin-off บริษัท เมพ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MEB เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ได้สำเร็จ

4.  กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ รายได้เพิ่มขึ้น 37% จากโควิดที่ผ่อนคลายลงทำให้มีผู้ใช้บริการเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับการขยายพื้นที่ให้เช่าในประเทศไทย

โตทั้งรายได้และมาร์จิน e1678979954870

จุดแข็งในธุรกิจค้าปลีกของ CRC คือ ยอดขายบนแพลตฟอร์ม Omni-channel ที่เติบโตขึ้นถึง 15% จากปีก่อน และมีสัดส่วนยอดขายจากแพลตฟอร์มนี้เป็น 18% ของยอดขายทั้งหมด ซึ่งกลายมาเป็นหัวใจสำคัญที่เชื่อมโลกออนไลน์กับออฟไลน์ไว้ด้วยกัน เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้บริโภคแบบไร้รอยต่อ

ขึ้นแท่น Top Pick หุ้นค้าปลีก

หลังจากที่ CRC รายงานรายได้และกำไรปี 2565 ออกมาโดดเด่นเหนือคาด ทำให้นักวิเคราะห์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ปรับประมาณการกำไรเพิ่ม โดยคาดกำไรปี 2566 เป็น 8,600 ล้านบาท และปี 2567 เป็น 11,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดิม 17.5% และ 24.2% ตามลำดับ ซึ่งมาจากการรับรู้รายได้ที่มากขึ้นในทุกธุรกิจ จากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) เฉลี่ยทั้งปีที่คาดว่าจะอยู่ระดับ 10% และ 11%

โดยเชื่อว่าจะเห็นพัฒนาการของผลกำไรที่ต่อเนื่องของ CRC ด้วยผลตอบรับการเปิดเมือง หลังการใช้ชีวิตสามารถทำได้เป็นปกติ พร้อมการกลับของนักท่องเที่ยว ส่งผลให้ราคาเหมาะสมใหม่หุ้น CRC ของปี 2566 อยู่ที่ 49.80 บาท เพิ่มขึ้นจากเดิมราคา 44.50 บาท คงคำแนะนำ “TRADING”

มุ่งสู่ The Next Sustainable Growth ตั้งเป้ารายได้เติบโต 15%

CRC ประกาศแผนปี 2566 มุ่งสู่การเป็น The Next Sustainable Growth และคาดว่าจะสร้างรายได้เติบโตกว่า 15% เป็น 270,000 รวมทั้งวางงบลงทุน 28,000 ล้านบาท ขับเคลื่อนธุรกิจอย่างเต็มกำลัง พัฒนาเทคโนโลยี ขยายสาขาเพิ่มทั้งในไทยและเวียดนาม โดยเชื่อมั่นว่าแม้เศรษฐกิจโลกหัวเลี้ยวหัวต่อ แต่ CRC อยู่ในตำแหน่งที่มีโอกาส  

334227944 3569583490031709 2898278502590234316 n 1
ภาพ-เฟซบุ๊กCentral Retail

ทั้งนี้ บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ ให้มุมมองเกี่ยวกับแผนการลงทุนและแนวโน้มธุรกิจของ CRC ว่าการที่บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 15% จากปีก่อน นั้นมีแรงหนุนจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว การท่องเที่ยวที่กลับมาคึกคัก รวมถึงการขยายและปรับปรุงสาขา ซึ่งเมื่อแยกตามประเทศ CRC ตั้งเป้ายอดขายในไทยโต 14-16% เวียดนามโต 10-12% และอิตาลีโต 9-11% เมื่อแยกตามกลุ่มธุรกิจ CRC ตั้งเป้ายอดขายกลุ่มแฟชั่นโต 14-16% กลุ่มฮาร์ดไลน์โต 13-15% และกลุ่มฟู้ดโต 10-12%

สำหรับการขยายสาขารูปแบบขนาดใหญ่ บริษัทวางแผนเปิดห้างสรรพสินค้า 2 สาขา ได้แก่ โรบินสัน ภูเก็ต และเซ็นทรัล เวสต์วิลล์, ร้านไทวัสดุ 10 สาขา, ซูเปอร์มาร์เก็ต 15 สาขา และโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เซ็นเตอร์ 1 สาขา ส่วนในเวียดนามวางแผนจะเปิดซูเปอร์มาร์เก็ต 8-10 สาขา และร้าน Nguyen Kim 5 สาขา

ดังนั้น บริษัทจะได้รับการสนับสนุนจากรายได้ที่สูงขึ้น อัตรากำไรขั้นต้นที่กว้างขึ้น และอัตราส่วนค่าใช้จ่าย SG&A ต่อยอดขายที่ควบคุมได้ดีขึ้น จึงมองว่า CRC จะมีกำไรปี 2566 เติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 25% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มพาณิชย์ที่ 21% คงคำแนะนำ “Outperform” ด้วยราคาเป้าหมาย 50 บาท

อ่านข่าวเพิ่มเติม 

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน