ลาซาด้า จัดเต็มแพ็กเกจพิเศษ ดันเอสเอ็มอีไทยสู้วิกฤติ ตั้งเป้าสร้างรายได้เอสเอ็มอีไทยกว่า 50,000 ราย พร้อมชูเครื่องมือต่อยอดธุรกิจ “LazLive” นำเสนอไลฟ์กว่า 1,800 รายการต่อสัปดาห์ ตอบรับไลฟ์สไตล์ลูกค้าในช่วง “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ”
นางสาวภารดี สินธวณรงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท ลาซาด้า จำกัด (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า วิกฤตโควิด-19 ไม่เพียงกระทบโดยตรงต่อการดำเนินชีวิต และสุขภาพของคนไทย แต่ยังรวมถึงผลกระทบด้านเศรษฐกิจ จากการที่ธุรกิจ ร้านค้า ร้านอาหาร และบริการต่างๆ ต้องหยุดชะงักลง
ดังนั้น ภาคธุรกิจจึงไม่หยุดอยู่แค่ธุรกิจแบบออฟไลน์ แต่ต้องปรับตัว ผสานนวัตกรรมและเทคโนโลยี สู่การค้าบนช่องทางออนไลน์และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เพื่อธุรกิจจะได้ไปต่อและสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ ส่งผลให้ภาพรวมตลาดอีคอมเมิร์ซและการซื้อขายสินค้าออนไลน์ในเมืองไทยมีการเติบโตที่สูงขึ้น 80% ในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
สำหรับลาซาด้าพบว่า ในช่วงเวลาที่ทุกคน ร่วมใจกัน “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” ทำให้พฤติกรรมการใช้งานแอปพลิเคชันลาซาด้าเปลี่ยนแปลงไป โดยมีจำนวนนักช้อปที่ซื้อสินค้าบนแพลตฟอร์มลาซาด้า เพิ่มขึ้นกว่า 60% รวมทั้งมีการใช้เวลาเฉลี่ยในการใช้งานต่อครั้ง 11 นาที ซึ่งนานขึ้นถึง 11% และมีจำนวนผู้ขายบนลาซาด้าเพิ่มขึ้นกว่า 26,000 ราย
ปัจจุบันลาซาด้ามีผู้ขายที่เป็นร้านค้าและแบรนด์ทั้งหมดกว่า 200,000 ราย ส่งผลให้ภาพรวมความสำเร็จของลาซาด้าเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วงกลางเดือนมีนาคมถึงกลางเดือนเมษายน โดยยอดคำสั่งซื้อในลาซาด้าพุ่งขึ้น 100% และมูลค่าการซื้อ-ขายสินค้าสูงขึ้นถึง 130% เมื่อเทียบระหว่างต้นเดือนกุมภาพันธ์ และต้นเดือนเมษายน ซึ่งสินค้าที่ขายดี ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ของใช้จำเป็นภายในบ้าน รวมถึงของเล่นเด็กต่างๆ
ด้านนางสาวธนิดา ซุยวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายธุรกิจ บริษัท ลาซาด้า จำกัด (ประเทศไทย) กล่าวเพิ่มเติมว่า ลาซาด้า พร้อมเคียงข้างคนไทยในทุกสถานการณ์และเป็นส่วนหนึ่งในการให้พลังใจที่จะช่วยขับเคลื่อนให้ทุกคนผ่านวิกฤตในครั้งนี้ไปได้ด้วยกัน ผ่านแผนสนับสนุนครบวงจร ภายใต้แนวคิด “#StrongerTogether จากใจถึงใจ สู้ไปด้วยกัน” ที่จะช่วยหนุนทั้งผู้ขาย ลูกค้า และสังคมไทย
ทั้งนี้ ลาซาด้าได้เปิดตัวมาตรการพิเศษที่จะเข้ามาช่วยเหลือและช่วยสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้นให้กับธุรกิจเอสเอ็มอีและแบรนด์ต่างๆ เพิ่มเติม อาทิ “SME Stimulus Package” เพื่อช่วยเหลือเอสเอ็มอีไทยกว่า 50,000 ราย ไม่ว่าจะเป็นผู้ขายเดิมหรือผู้ขายใหม่ ด้วยสิทธิประโยชน์มากมาย ตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน – 15 พฤษภาคม 2563 โดยฟรี 0% ค่าคอมมิชชั่น และค่าธรรมเนียมการชำระเงิน ซึ่งลาซาด้าจะเป็นผู้สนับสนุนค่าใช้จ่ายทั้งหมด
นอกจากนี้ ยังสามารถเปิดร้านออนไลน์ได้รวดเร็วทันใจภายใน 3 นาที และสามารถเข้าถึงบริการสนับสนุนอื่นๆ เพิ่มเติมฟรี อาทิ LazLive ฟังก์ชั่นไลฟ์สตรีมบนแอปพลิเคชันลาซาด้า ที่มีคอนเทนต์หลากหลายกว่า 500 คอนเทนต์ต่อสัปดาห์
นางสาวภารดี กล่าวต่อว่า ปัจจุบันมีผู้ขายกว่า 2,500 รายลงทะเบียนทำคอนเทนต์ LazLive โดยผู้ขายมากกว่า 150 ราย ทำคอนเทนต์ผ่าน LazLive เป็นประจำทุกวัน ปัจจุบันมีจำนวนยอดการรับชมรวมกว่า 10 ล้านครั้งใน 2 เดือนที่ผ่านมา และสามารถสร้างคำสั่งซื้อได้มากกว่า 20,000 รายการ ขณะที่ลาซาด้าตั้งเป้าจำนวนผู้ขายและผู้บริโภคทำคอนเทนต์บน LazLive มากขึ้นเฉลี่ย 40% ต่อเดือน มีจำนวนคอนเทนต์เพิ่มขึ้น 1.5 เท่า หรือประมาณ 1,800 คอนเทนต์ต่อสัปดาห์ และเป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจเอสเอ็มอีได้ถึง 20%
พร้อมกันนี้ ลาซาด้ายังได้มอบเงินบริจาครวม 3 ล้านบาท ให้แก่โรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เพื่อการจัดซื้อเวชภัณฑ์ เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นในการรักษาผู้ป่วย และร่วมแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ผ่านโครงการ “LazadaForGood” ให้ทุกใจได้ทำดี’ เปิดช่องทางการบริจาคออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มลาซาด้า เพื่อสนับสนุนองค์กรไม่แสวงกำไร ช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส และองค์กรสาธารณกุศลต่างๆ
