Sme

ตลาดการเงินคึก เมื่อยักษ์ใหญ่อย่าง ‘แกร็บ’ ผนึก ‘สิงเทล’ ลุยธนาคารดิจิทัล

เมื่อตลาดอี-วอลเล็ต มีแนวโน้มเติบโต 5 เท่าในอีก 5 ปีข้างหน้า จากพฤติกรรมออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น แกร็บ บริษัทสตาร์ทอัพชื่อดัง จึงกระโดดผนึกกำลังกับยักษ์ใหญ่วงการสื่อสาร สิงเทล เพื่อเปิดธนาคารดิจิทัล (Digital Bank)  โดยมุ่งเป้าหมายลูกค้ากลุ่มเอสเอ็มอี โดย แกร็บ ถือครองหุ้น 60% และสิงเทล 40%

ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา แกร็บ ได้ลงทุนอย่างจริงจังในการพัฒนารูปแบบการชำระเงินที่เรารู้จักและคุ้นเคยกัน อย่าง แกร็บเพย์ (GrabPay) ที่เปิดตัวไปตั้งแต่ปี 2559 เพื่อสนับสนุนและตอบสนองการใช้งานแอปพลิเคชันของตนเองให้มากขึ้น และได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เช่น บริการประกันภัยออนไลน์และการปล่อยสินเชื่อ

001

 

จนกระทั่งมาปี 2563 นี้ แกร็บจึงมุ่งสร้าง ธนาคารดิจิทัล เพื่อนำเสนอบริการด้านการเงินและการธนาคารที่หลากหลาย เน้น 3 หัวใจหลักขับเคลื่อน คือ “เข้าถึงได้ โปร่งใสและต้นทุนทางการเงินไม่แพง”

คราวนี้ แกร็บ ไม่ได้ลุยเดี่ยว เมื่อได้พันธมิตรระดับเก๋าอย่าง สิงเทล เจ้าพ่อวงการสื่อสารยักษ์ใหญ่แห่งสิงคโปร์ ทำให้ถูกคาดการณ์ว่าจะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในระยะเวลาไม่นานนับจากนี้

แกร็บ และ สิงเทล รู้ดีว่าตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีประชากรรวมกันกว่า 700 ล้านคน ในจำนวนนี้ มีเพียง 104 ล้านคนเท่านั้น ที่เข้าถึงบริการทางการเงิน ที่เหลือกลับพบว่าไม่มีข้อมูลหรือฐานเครดิตในระบบที่เพียงพอ ส่วนหนึ่งเกิดจากโครงสร้างพื้นฐานของฐานข้อมูลทางการเงิน

แกร็บ

ด้วยนวัตกรรมแบบ ฟินเทค เชื่อว่าจะสามารถเชื่อมโยงข้อมูลต่างๆ และสร้างโครงสร้างของฐานข้อมูลทางการเงินได้ดีและเพียงพอ ทำให้กระบวนการด้านการให้บริการทางการเงินจะยิ่งเข้าถึงได้ง่าย สะดวกและต้นทุนต่ำ

แกร็บ และ สิงเทล รู้ดีว่าตลาดดิจทัลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง คาดการณ์ว่าในปี 2025 ตลาด อี-วอลเล็ต จะใหญ่ถึง 22,000 ล้าน USD หรือราว 6.6 แสนล้านบาท ข้อมูลนี้ตรงกับสิ่งที่ กูเกิล ได้ศึกษาไว้เช่นกัน

สำหรับเป้าหมายแรกสุดคือ ลุยเอสเอ็มอีในสิงคโปร์ ทีมที่ปรึกษาและนักวิเคราะห์ตลาดของ MVP Consultant ได้ลงพื้นที่ตลาดสิงคโปร์ในปลายปี 2562 สิ่งที่ค้นพบและน่าสนใจคือ กลุ่มคนรุ่นใหม่สิงคโปร์หันมาเป็น Entrepreneur หรือผู้ประกอบการกันมากขึ้น

สังเกตง่ายๆ หลักสูตรแนวผู้ประกอบการเยอะมากขึ้น สอดรับกับกระแสการเติบโตของสายเทคโนโลยี (Tech) ที่เพิ่มขึ้น พร้อมๆ กับนโยบายภาครัฐที่เน้นสร้างเอไอ และเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อหาพื้นที่แสดงศักยภาพของประเทศในสังคมโลก

singtel

เทรนด์ผู้ประกอบการเริ่มจากน้องๆ เด็กๆ วัยรุ่นสิงคโปร์ เริ่มทำงานคราฟท์สินค้าของตนเอง ทั้งงานศิลปะ งานนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์มาจัดจำหน่าย หรือแสวงหานักลงทุนมากขึ้น

สิ่งนี้เองที่การันตีให้ แกร็บ และ สิงเทล เลือกกลุ่มเป้าหมายแรกสุดคือ เอสเอ็มอี และมันไม่ใช่แค่ตลาดสิงคโปร์ แต่มันจะถูกขยายไปตัวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เรียกว่าทีใดมี แกร็บ ที่นั่นมี ธนาคารดิจิทัล ของพวกเขาแน่นอน

ขอบคุณข้อมูลจาก : Mr. MVP MVP Consultant, Co., Ltd.

Avatar photo