Startup

‘แกร็บ’ เปิดศูนย์ความเป็นเลิศระดับภูมิภาคแห่งใหม่ในมาเลย์

แกร็บ แพลตฟอร์มการให้บริการออนไลน์สู่ออฟไลน์ผ่านมือถือชั้นนำของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศเปิดตัวศูนย์ความเป็นเลิศระดับภูมิภาค หรือ Regional Centre of Excellence (RCoE) แห่งใหม่ ภายในพื้นที่สำนักงานขนาด 54,000 ตารางฟุตที่ได้รับการต่อขยาย

GRAB AFP

ศูนย์ความเป็นเลิศแห่งนี้จะเป็นแหล่งรวมกลยุทธ์ธุรกิจหลักและฟังก์ชันการดำเนินงานด้านต่างๆ ของแกร็บ ซึ่งรวมถึง ข้อกฎหมาย ประสบการณ์ลูกค้า บริการทางการเงิน และบริการสร้างสรรค์

การดำเนินการดังกล่าวนับเป็นครั้งที่ 2 ที่แกร็บได้กลับเข้ามาลงทุนอย่างแข็งแกร่งในประเทศซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจ ต่อจากการเปิดตัวศูนย์วิจัยและพัฒนาแห่งแรกในมาเลเซียเมื่อเดือนที่แล้ว เพื่อบ่มเพาะบุคลากรด้านเทคโนโลยีขั้นสูงของมาเลเซีย

ศูนย์วิจัยและพัฒนาในมาเลเซียแห่งนี้ นับเป็นแห่งที่ 7 ในแผนงานขยายศูนย์ R&D ของแกร็บไปทั่วโลก และจะทำให้เกิดการสร้างงานใหม่อย่างน้อย 400 ตำแหน่งในทันที  ส่งผลให้จำนวนพนักงานทั้งหมดของแกร็บในมาเลเซียเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 คน

สำหรับทีมเทคโนโลยีและวิศวกรรมในศูนย์วิจัยและพัฒนาที่มาเลเซีย จะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาโซลูชั่น และขีดความสามารถในการสร้างความไว้ใจและความปลอดภัย ที่ไม่เพียงแต่แก้ปัญหาความปลอดภัยสำหรับประชาชนในมาเลเซียเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้คนทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

แกร็บเดินหน้าเพิ่มการลงทุนระดับโลกในเทคโนโลยีขั้นสูง วิทยาการข้อมูล ปัญญาประดิษฐ์ และแมชชีนเลิร์นนิ่ง เพื่อให้ทุกการเดินทาง ทุกการจัดส่งสินค้า และทุกการทำธุรกรรมทางการเงินที่เกิดขึ้นบนแพลตฟอร์มของเราปลอดภัยและเสถียรยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา โดยทีมเทคโนโลยีและวิศวกรรรมของมาเลเซียจะมีบทบาทสำคัญในการกำหนดมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตลอดจนช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายสูงสุดในการลดการเกิดอุบัติเหตุที่สามารถป้องกันได้บนแพลตฟอร์มของเราให้เป็นศูนย์

นายฌอน โก๊ะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ มาเลเซีย กล่าวว่า การทุ่มลงทุนก่อตั้งศูนย์ความเป็นเลิศระดับภูมิภาคและศูนย์ R&D แห่งล่าสุดในมาเลเซีย คือการดำเนินการของบริษัท ในการตอบสนองต่อข้อเรียกร้องของรัฐบาลมาเลเซียที่ต้องการให้ภาครัฐและภาคเอกชนร่วมมือกันขับเคลื่อนนโยบายอุตสาหกรรม 4.0 และเป้าหมายเศรษฐกิจดิจิทัลของมาเลเซียให้บรรลุผลสำเร็จ

แกร็บมุ่งมั่นที่จะช่วยให้มาเลเซียปลดล็อคผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่มากขึ้น ด้วยการสร้างงานมูลค่าสูง บ่มเพาะคนเก่งด้านเทคโนโลยีเชิงลึก และดึงดูดชาวมาเลเซียในต่างประเทศให้กลับมาทำประโยชน์ให้กับบ้านเกิดมากขึ้น

“การลงทุนเหล่านี้อยู่นอกเหนือพันธกิจที่เราดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็คือการทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการเดินทางและได้รับความปลอดภัยมากขึ้น ขณะเดียวกันยังช่วยเปิดโอกาสในการสร้างรายได้ที่ดีขึ้นสำหรับผู้ขับขี่และพันธมิตรด้านการจัดส่งสินค้า และทำให้ธุรกิจท้องถิ่นสามารถใช้ประโยชน์จากฐานผู้ใช้และเครือข่ายการจัดจำหน่ายของเรา เพื่อสร้างรายได้ทางธุรกิจเพิ่มมากขึ้น ยังมีอีกหลายอย่างที่เราสามารถทำได้เพื่อปรับปรุงชีวิตประจำวันของชาวมาเลเซีย เราต้องการที่จะร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลมาเลเซียเพื่อพัฒนากฎระเบียบและนโยบายที่ทุกฝ่ายได้รับผลประโยชน์ ซึ่งเอื้อให้นวัตกรรมสามารถเติบโต ตลอดจนตอบสนองผลประโยชน์ของชาวมาเลเซียได้มากและดียิ่งขึ้น” นายฌอน กล่าว

Avatar photo