Startup

แพลตฟอร์ม ‘นิลมังกร’ ปั้น เอสเอ็มอี สตาร์ทอัพ จากภูมิภาค สู่ระดับประเทศ

แพลตฟอร์ม ‘นิลมังกร’ NIA ผนึก อว. พร้อม 18 ภาคีเครือข่าย จัดประกวดนวัตกรรม ปั้นเอสเอ็มอี สตาร์ทอัพหน้าใหม่จากภูมิภาค สู่ระดับประเทศ

ดร. พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) เปิดเผยว่า การสร้างสรรค์ แพลตฟอร์ม “นิลมังกร” มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุน ส่งเสริม พัฒนาผู้ประกอบการไทย ทั้งเอสเอ็มอี และสตาร์ทอัพในภูมิภาค สู่การเป็นผู้ประกอบการฐานนวัตกรรม (Innovation Based Enterprise : IBE) ในระดับประเทศ

แพลตฟอร์ม นิลมังกร

การใช้ชื่อ ชื่อ “นิลมังกร” ก็เพื่อสะท้อนให้เห็นถึง ผู้ประกอบการไทย ที่มีความแข็งแกร่ง อดทน ปราดเปรียว มีพลังความสามารถ เสมือน “ม้านิลมังกร” ในวรรณคดีไทย ซึ่งเป็นม้าวิเศษ สุดยอดแห่งม้าในจินตนาการของคนไทย

สำหรับการยกระดับนวัตกรรม สู่ภูมิภาค ถืงเป็นกรอบการทำงานใหม่ที่ NIA ให้ความสำคัญ เนื่องจากความสำคัญของการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจภูมิภาค ประกอบกับ ผู้ประกอบการไทย ในส่วนภูมิภาค มีการเติบโตและการพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว

ดังนั้น จึงเห็นว่า การส่งเสริมองค์ความรู้ ด้านนวัตกรรม และการพัฒนาระบบนวัตกรรม ในระดับท้องถิ่น และส่วนภูมิภาค จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะช่วยให้เกิดการการพัฒนาต่อยอดสู่ “ธุรกิจนวัตกรรม” ในระดับประเทศได้

แพลตฟอร์ม  “นิลมังกร” มีเป้าหมายสำคัญ ในการสร้างให้เกิดผู้ประกอบการ ทั้งเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพรุ่นใหม่ที่มุ่งเน้นการพัฒนาต่อยอดธุรกิจด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ผลักดันให้ก้าวสู่การเป็นผู้ประกอบการฐานนวัตกรรม

S 9240648
พันธุ์อาจ ชัยรัตน์

ทั้งนี้ จะประกอบด้วย 3 กลยุทธ์ 9 กลไก ได้แก่ 1. CREATE the DOT (ค้นหา DNA/ บ่มเพาะ/ พัฒนาศักยภาพ) 2. CONNECT the DOT (สร้างโอกาสในการเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานนวัตกรรม/ พัฒนาคลัสเตอร์เป้าหมาย/ สร้างเครือข่าย) และ 3. VALUE CREATION (ส่งเสริมและพัฒนา/ สร้างพื้นที่ให้มีโอกาสได้ขยายผล/ ส่งเสริมการแข่งขันและสร้างตราสินค้าให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง)

ด้าน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง เลขานุการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิจัย และนวัตกรรม กล่าวว่า หนึ่งในภารกิจของ อว. คือ การมุ่งเน้นขับเคลื่อนประเทศให้เปลี่ยนแปลงไปสู่ประเทศที่พัฒนาแล้ว ด้วยการผลักดันให้เกิดการพัฒนาศักยภาพของคน และการนำเอาองค์ความรู้แบบบูรณาการศาสตร์ ผนวกกับงานวิจัย เทคโนโลยีและนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจ

ทั้งหมดนี้ เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่ในระดับภูมิภาค ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือของหน่วยงานเครือข่าย ในหลากหลายภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคการศึกษา และภาคเอกชน ที่พร้อมจะช่วยกัน พัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการและสตาร์ทอัพ ในพื้นที่ภูมิภาค ให้พร้อมเติบโต และสามารถสร้างนวัตกรรม ที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของประเทศ

S 9240654

“หากทำได้ตามเป้าหมาย จะส่งผลให้เกิดการพัฒนา ทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคม อย่างยั่งยืน ยกระดับคุณภาพชีวิต ของประชาชน ในทุกพื้นที่ของประเทศได้อย่างยั่งยืน”ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ดวงฤทธิ์ กล่าว

ด้าน ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง รองผู้อำนวยการด้านระบบนวัตกรรม NIA กล่าวเพิ่มเติมว่า NIA ยังได้ร่วมมือกับ อว. และ 18 ภาคีเครือข่าย จัดโครงการประกวด “สุดยอดธุรกิจนวัตกรรมระดับภูมิภาค 2563” เพื่อสร้างมูลค่าและคุณค่าเพิ่ม ให้กับสินค้าและบริการนวัตกรรมที่ริ่เริ่มขึ้น

นอกจากนี้ ยังมุ่งเฟ้นหาผู้ประกอบการ ทั้งเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพ ในภูมิภาค ที่มีการนำอัตลักษณ์ของพื้นที่ มาสร้างสรรค์ ร่วมกับการใช้นวัตกรรม ในการสร้างความสามารถในการแข่งขัน และมีการจำหน่ายหรือใช้ประโยชน์สินค้าหรือบริการนวัตกรรมแล้วในระดับภูมิภาค แต่ยังไม่เป็นที่รู้จัก หรือยังไม่สามารถขยายผลทางธุรกิจได้

การเข้าร่วมประกวดดังกล่าว จะส่งผลให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ด้านการพัฒนานวัตกรรม การบริหารจัดการธุรกิจ และการสร้างแบรนด์เพิ่มเติม เพื่อให้เกิดตราสินค้าที่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และสามารถขยาย หรือสร้างการเติบโตทางธุรกิจได้ต่อไป

ขณะเดียวกัน ยังเป็นต้นแบบ หรือเป็นฮีโร่ ในการสร้างแรงบันดาลใจของคนในพื้นที่ ในการสร้างนวัตกรรมทั้งสินค้าและบริการ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค และการตลาดได้อย่างตรงจุด สามารถสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในตลาด และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนของธุรกิจได้

สำหรับการจัดแข่งขันสุดยอดธุรกิจนวัตกรรมประเทศไทย แบ่งเป็น 2 ระยะ คือ ระดับภูมิภาค ที่จะเฟ้นหาธุรกิจนวัตกรรมที่มีอัตลักษณ์ของพื้นที่กว่า 400 ธุรกิจ ครอบคลุมพื้นที่ทั้ง 4 ภูมิภาคทั่วประเทศ ซึ่งจะมีการให้ความรู้เบื้องต้นที่เกี่ยวข้องกับความคิดสร้างสรรค์ รูปแบบธุรกิจ การสร้างแบรนด์ และการเล่าเรื่อง

สำหรับ ทีมที่ผ่านการคัดเลือก 20 ธุรกิจสุดท้ายจากทุกภูมิภาค จะเข้าสู่การแข่งขันต่อในระดับประเทศ เพื่อค้นหาสุดยอดธุรกิจนวัตกรรมแชมป์ประเทศไทย ชิงรางวัลมูลค่ากว่า 2,000,000 บาท พร้อมโอกาสการต่อยอดทางธุรกิจด้วยโปรแกรมการพัฒนาองค์ความรู้เชิงลึกในด้านนวัตกรรม การบริหารจัดการ และการสร้างแบรนด์ของธุรกิจอย่างเต็มรูปแบบ

การประกวดครั้งนี้ จะมีการตัดสิน 20 ธุรกิจสุดท้ายจากทุกภูมิภาค ภายในวันที่ 25 ธันวาคม 2563 โดยเปิดรับสมัครพร้อมกันทั่วทุกภาค ตั้งแต่วันนี้ – 25 ตุลาคม 2563 ผ่านช่องทางออนไลน์ที่ http://www.tibc.nia.or.th และติดตามรายละเอียดโครงการและการประกวดได้ที่ Facebook Fanpage : Thailand Inno Biz Champion

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo