หากพูดถึงการเริ่มต้นทำธุรกิจเทคโนโลยีแห่งใหม่ขึ้นมา สถานที่แรกที่มักนึกถึงกัน คือ ซิลิคอน วัลเลย์ ในเมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐ
อย่างไรก็ดี ค่าครองชีพ และราคาอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในระดับสูงของสถานที่นี้ อาจทำให้เจ้าของกิจการต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก จากการที่งบประมาณจำกัด
ด้วยสาเหตุนี้ บรรดาเจ้าของกิจการต่างๆ ควรต้องจำใส่ใจไว้ว่า ยังมีสถานที่ทางเลือกอีกมากมาย ที่มีราคาถูกกว่าซิลิคอน วัลเลย์ หากต้องการตั้งบริษัทขึ้นมาใหม่
5 เมืองดีสุดในโลกเปิดสตาร์ทอัพ
บอสตัน แมสซาชูเซตส์ สหรัฐ
เมืองหลวงของรัฐแมสซาชูเซตส์แห่งนี้ ถือเป็นซานฟรานซิสโก เวอร์ชั่นชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐ
บอสตัน เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประชากรที่มีการศึกษาในระดับอุดมศึกษา เพราะเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยมากกว่า 60 แห่ง รวมถึงมหาวิทยาลัยชื่อดัง อย่าง เอ็มไอที และฮาร์วาร์ด จึงสามารถเฟ้นหาตัวบุคคลที่มีความสามารถได้อย่างง่ายดาย
เบอร์ลิน เยอรมนี
กรุงเบอร์ลิน เป็นหนึ่งในเมืองที่ระบบนิเวศสำหรับสตาร์ทอัพเพิ่มขึ้นเร็วสุดในโลก และปัจจุบัน เป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของสตาร์ทอัพจำนวนมาก
เมืองหลวงของเยอรมนีแห่งนี้ ยังมีศูนย์ให้ความรู้ และสนับสนุนเจ้าของกิจการหน้าใหม่ทั้งหลายอีกจำนวนมาก ทั้งยังตั้งอยู่ใจกลางยุโรป และอยู่ในประเทศที่มีสถานะทางเศรษฐกิจแข็งแกร่ง
ถ้าหากเจ้าของกิจการรายใด ที่ตั้งเป้าทำธุรกิจในยุโรป หรือต้องการสร้างการเติบโตในภูมิภาคนี้ จะต้องไม่พลาดเบอร์ลิน
บังกาลอร์ อินเดีย
บังกาลอร์เป็นที่ตั้งของสตาร์ทอัพที่ยังดำเนินธุรกิจอยู่ราว 4,900 ราย เป็นหนึ่งในเมืองเทคโนโลยีชั้นนำของอินเดียมาตั้งแต่ทศวรรษ 70
ข้อดีของเมืองบังกาลอร์ คือ มีค่าแรงต่ำ และมีแรงงานที่มีความสามารถทางด้านเทคนิคอย่างเยี่ยมยอด
ยิ่งไปกว่านั้น เมืองนี้ยังเต็มไปด้วยคนที่พร้อมรับสิ่งใหม่ๆ ทำให้สตาร์ทอัพ สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ของตัวเองได้ง่ายดาย และยังมีนักลงทุนที่มีศักยภาพอยู่เป็นจำนวนมาก
อิสตันบูล ตุรกี
นครอิสตันบูล ถือเป็นสะพานเชื่อมระหว่างยุโรป กับเอเชีย เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ ด้วยจำนวนประชากรมากถึง 15 ล้านคน แถมส่วนใหญ่ยังเป็นคนหนุ่มสาว
เมืองนี้ ยังมีอัตราการเป็นเจ้าของอุปกรณ์มือถือ และการท่องอินเทอร์เน็ตในระดับที่สูงมาก ทั้งยังมีการเปิดศูนย์ให้ความช่วยเหลือ และมีโครงการสนับสนุนธุรกิจใหม่เกิดขึ้นทุกปี จึงเป็นเรื่องง่ายสำหรับการสร้างธุรกิจให้เติบโตขึ้น
เมลเบิร์น ออสเตรเลีย
เมืองใหญ่อันดับ 2 ของออสเตรเลีย ที่มักจะมีการแข่งขันกับนครซิดนีย์ เพื่อชิงฐานะการเป็นเมืองเทคโนโลยีแห่งออสเตรเลียอยู่ตลอดเวลา
อย่างไรก็ดี เมลเบิร์น มีค่าครองชีพต่ำ และอสังหาริมทรัพย์ราคาถูกกว่าซิดนีย์ จึงทำให้มีความน่าสนใจมากกว่าในสายตาของสตาร์ทอัพหน้าใหม่ทั้งหลาย
นอกจากนี้ ชาวเมลเบิร์นยังเปิดกว้าง รับแนวคิด และนวัตกรรมใหม่ๆ ทำให้ผลิตภัณฑ์์ของสตาร์ทอัพได้รับการยอมรับง่ายขึ้น
ที่มา: entrepreneur
‘ชู ชู ดีไซน์’ สตาร์ทอัพสีเขียว เปลี่ยนขยะให้เป็นขุมทรัพย์
เจาะลายแทง ‘เจคิว ปูม้านึ่ง’พันล้าน