การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA จับมือ เทคมีทัวร์ (TakeMeTour) ในฐานะ Travel Tech ที่พัฒนาแพลตฟอร์มเว็บไซต์ ในการบริการจองทริปส่วนตัวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และขยายไปในประเทศต่างๆ ในอาเซียน จัดงาน “Create a New Era of Tourism in Thailand” สนับสนุนให้เกิดการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว (Travel Tech)
ดำเนินการผ่านกิจกรรมการแข่งขันพัฒนานวัตกรรมดิจิทัลในรูปแบบ Hackathon ภายใต้ชื่อโครงการ HackaTravel เพื่อกระตุ้นให้คนรุ่นใหม่คิดธุรกิจนวัตกรรมใหม่ๆ ด้านการท่องเที่ยว และเข้ามาประชันไอเดียเจ๋งๆ ที่สามารถนำไปตั้งต้นพัฒนาเป็นนวัตกรรม ธุรกิจ หรือผลิตภัณฑ์ได้ ชิงรางวัลสูงสุดกว่า 300,000 บาท
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า หัวใจสำคัญของการท่องเที่ยว คือ ทำอย่างไรที่จะอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวในด้านต่างๆให้มากที่สุด “นวัตกรรมการท่องเที่ยว” จึงเป็นกลไกที่สำคัญที่จะมาช่วยตอบโจทย์ได้ ช่วยส่งเสริมทั้งการท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้กับประเทศ และสนับสนุนกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว
“จากการจัดอันดับของ WorldAtlast.com ประเทศไทย มีรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นอันดับ 4 และมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเป็นอันดับ 10 ของโลก จึงเชื่อว่าศักยภาพการท่องเที่ยวของไทย จะทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องเติบโตไปอย่างต่อเนื่อง”
สำหรับโครงการ HackaTravel เป็นเพราะททท.เชื่อมั่นในคนรุ่นใหม่ แต่ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต้องเตรียมเขาให้พร้อม ซึ่งรายการแข่งขัน HackaTravel จะเป็นส่วนหนึ่งในระบบนิเวศน์ ของการพัฒนาวิสาหกิจดิจิทัล ให้เติบโตแบบก้าวกระโดด และร่วมกันหาคำตอบให้กับโจทย์ใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ที่อาจจะไม่สามารถหาได้โดยวิธีการแบบเดิมๆ หรือไม่ทันการณ์กับการเปลี่ยนแปลงในโลกดิจิทัล และ HackaTravel จะช่วยสร้างโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน รวมทั้งการได้รับคำปรึกษาจากหน่วยงาน และผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ตรง ที่เข้าใจเส้นทางการประสบความสำเร็จของวิสาหกิจเริ่มต้น
ด้าน ดร. กริชผกา บุญเฟื่อง รองผู้อำนวยการด้านระบบนวัตกรรม NIA กล่าวว่า เรามีศูนย์ “Startup Thailand ” ในการสนับสนุนพัฒนาระบบนิเวศสตาร์ทอัพ (Startup Ecosystem) และส่งเสริมขีดความสามารถของสตาร์ทอัพ ด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
โดยที่ผ่านมาได้ทำงานร่วมกับ ททท. อย่างใกล้ชิดในการช่วยผลักดัน และพัฒนาสตาร์ทอัพด้านอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้เข้มแข็ง และสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ ปัจจุบันทาง NIA มีโครงการต่างๆในการสนับสนุนสตาร์ทอัพด้านอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เช่น โครงการ IDE to IPO รุ่นที่ 3 ที่มีเป้าหมาย เพื่อสร้างองค์ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับนวัตกรรม การพัฒนาธุรกิจการจัดการนวัตกรรมด้านการโรงแรม และการท่องเที่ยว การให้ทุนสนับสนุนด้านนวัตกรรมการท่องเที่ยว
“กิจกรรม HackaTravel ครั้งนี้ ก็จะเป็นการสร้าง Startup ด้าน Travel Tech ใหม่ๆให้แก่ประเทศไทย เพื่อเป็นนักรบทางเศรษฐกิจรุ่นใหม่ มีส่วนช่วยในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยต่อไป ”
นายจีระวัฒน์ กุลทรัพย์อุดม Head of Ecosystem บริษัท สิริ เวนเจอร์ส จำกัด (SIRI VENTURES) หนึ่งในผู้สนับสนุนหลักโครงการ HackaTravel กล่าวว่า เห็นถึงแนวโน้มธุรกิจการท่องเที่ยวที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงเดินหน้ารุกธุรกิจโรงแรม และแอพพลิเคชั่น ด้านการท่องเที่ยวอย่างเต็มรูปแบบ ตั้งแต่ โรงแรมเอสเคป หัวหิน และเขาใหญ่ เครือโรงแรมเดอะสแตนดาร์ด (Standard Hotels) แบรนด์โรงแรมระดับโลกที่เตรียมเปิดสาขาใหม่รวมเป็น 20 สาขาทั่วโลก และ One Night แอปพลิเคชั่น สำหรับการจองโรงแรมในวันเดียวกับการเข้าพัก ดังนั้นจึงสนับสนุนกิจกรรมเปิดเวทีให้กับคนรุ่นใหม่ ได้แสดงความสามารถในการคิดค้นนวัตกรรมที่นำมาใช้ได้จริง เพื่อยกระดับธุรกิจการท่องเที่ยวไทยในยุคดิจิทัล รวมทั้งนำโซลูชั่นด้าน Smart Data มาประยุกต์ใช้ในธุรกิจของแสนสิริในอนาคต
ขณะที่นายนพพล อนุกูลวิทยา ผู้ร่วมก่อตั้งเทคมีทัวร์ ในฐานะแกนหลักในโครงการ HackaTravel ระบุว่า ปัจจุบันทิศทางของอุตสาหกรรมต่างๆ ของโลก ได้ถูกเปลี่ยนแปลงตั้งแต่โฉมหน้า รูปแบบ ผู้เล่น ไปจนถึงโครงสร้างของอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นผลจากการเข้ามาของเทคโนโลยีต่างๆ การเข้ามาของดิจิทัล ส่งผลให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลง ทำเกิดธุรกิจใหม่ๆ ขณะที่ธุรกิจบางอย่างล้มหายไป และอีกจำนวนมากต้องเร่งปรับตัว อุตสาหกรรมท่องเที่ยว ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจไทย ก็เช่นเดียวกันที่กำลังพบกับความท้าทายครั้งใหญ่
“โครงการ HackaTravel มีเป้าหมายใหญ่ในการให้ความรู้กับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว เพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลง ที่กำลังจะเกิดขึ้น และปรับตัวให้ทัน รวมทั้งสนับสนุนคนรุ่นใหม่ที่มีไอเดียนวัตกรรมการท่องเที่ยวใหม่ๆ เข้ามาร่วมกันพัฒนาไอเดียเพื่อให้เกิดเป็นนวัตกรรม หรือผลิตภัณฑ์ที่ใช้ได้จริง รวมทั้งทำให้เกิดการพัฒนาต่อยอดเป็นธุรกิจต่อไป “
โครงการ HackaTravel มีจำนวนผู้สมัครเข้าร่วมแข่งขันทั้งหมด 268 คน ประกอบด้วยนิสิต นักศึกษาที่กำลังศึกษาด้านซอฟต์แวร์ ดีเวลลอปเปอร์ (software developer) และบุคคลทั่วไปที่ทำงานเป็นนักพัฒนาเป็นส่วนใหญ่
หลังจากปิดรับสมัคร ได้มีการคัดเลือกรอบแรก โดยมีผู้ผ่านการคัดเลือกทั้งหมด 90 คน คัดเลือกจากความเชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยีเป็นซอฟท์แวร์ ดีเวลลอปเปอร์ เป็นนักการตลาดออนไลน์ ที่มีความสามารถทางธุรกิจหรือผู้ที่เชี่ยวชาญเรื่องการท่องเที่ยวโดยเฉพาะ สำหรับเป้าหมายของโครงการ เพื่อสนับสนุนให้เกิดไอเดียนวัตกรรมการท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่สามารถ “ทำได้จริง”
สำหรับการแข่งขัน HackaTravel จะใช้ระยะเวลาทั้งหมด 2 วันเต็ม คือในวันที่ 27-28 เมษายน 2562 ณ ศูนย์กลางนวัตกรรมแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (CU Innovation Hub) การแข่งขัน แบ่งทีม ทีมละ 3-6 คน โดยภายในกิจกรรม Hackathon จะมีช่วงพิเศษ ให้ผู้ที่สมัครเข้ามาแบบทีมแล้ว สามารถเปลี่ยนใจแยกทีมได้
การแข่งขันได้กำหนดโจทย์ไว้ 4 เรื่อง ประกอบด้วย
- Emerging Destination Tourism การท่องเที่ยวเมืองรอง
- Tools For Tourism Business เครื่องมือทางธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการท่องเที่ยว
- Enabling Seamless Travel Experience เครื่องมืออำนวยความสะดวกในด้านการท่องเที่ยว
- Smart Data การเก็บและประยุกต์การใช้ข้อมูลด้านการท่องเที่ยว โดยแต่ละทีมสามารถเลือกโจทย์ได้ตามความถนัดของตัวเอง
โครงการ HackaTravel มีการให้ผู้เข้าแข่งขันได้รับความรู้ และคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในแวดวงเทคโนโลยี และแวดวงอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และมีเงินรางวัลมูลค่าสูงสุด 300,000 บาทมอบให้กับผู้ชนะการแข่งขันจำนวน 3 รางวัล ประกอบด้วย ทีมชนะเลิศรับรางวัลมูลค่า 150,000 บาท ทีมรองชนะเลิศอันดับ 1 รับรางวัลมูลค่า 100,000 บาท และทีมรองชนะเลิศอันดับ 2 รับรางวัลมูลค่า 50,000 บาท
นอกจากผู้ชนะการแข่งขันยังจะได้รับโอกาสในการสนับสนุนพัฒนาต่อยอดกับ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) บริษัท สิริ เวนเจอร์ส จำกัด (แสนสิริ) และ บริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด (มหาชน)