เรอัล มาดริด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวที ลา ลีกา สเปน ประกาศแต่งตั้งให้ ซานติอาโก โซลารี่ คุมทีมแบบถาวรเรียบร้อย เมื่อวันอังคารที่ 13 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยเซ็นสัญญายาวจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน ปี 2021
เดิมที โซลารี่ คุมทีม เรอัล มาดริด กาสตีย่า (ทีมสำรอง) แต่ถูกดันขึ้นมาคุมทีมชุดใหญ่แบบชั่วคราวเมื่อเดือนก่อน หลังจากที่ จูเลน โลเปเตกี ถูกปลดออกไป และหลังจากนั้นเจ้าตัวพา “ราชันชุดขาว” เก็บชัยชนะรวดทั้ง 4 นัดที่คุม แถมยิงได้ถึง 15 ประตู และเสียแค่ 2 ประตูเท่านั้น
เขากลายเป็นกุนซือ เรอัล มาดริด คนแรกที่นำทีมคว้าชัยชนะได้ทั้งหมดใน 4 เกมแรกที่กุมบังเหียน นับตั้งแต่ มานูเอล เปเยกรีนี่ ทำเอาไว้ในปี 2009 พร้อมพาทีมมีคะแนนตามหลังจ่าฝูงบาร์เซโลน่าเพียง 4 แต้มเท่านั้น
ถึงแม้ที่ผ่านมา เรอัล มาดริด มีข่าวเกี่ยวโยงกับโค้ชชื่อดังอย่าง โชเซ่ มูรินโญ่, อันโตนิโอ คอนเต้ และ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ แต่ล่าสุด ยอดทีมแชมป์ยุโรป 13 สมัย เลือกให้โอกาส โซลารี่ ได้คุมทัพแบบถาวร ภายใต้สัญญา 2 ปีครึ่ง
“บอร์ดบริหารของ เรอัล มาดริด ได้ประชุมกันในวันนี้ และได้มีข้อตกลงร่วมกันที่จะให้ ซานติอาโก โซลารี่ คุมทีมจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2021” แถลงการณ์ยืนยันจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ เรอัล มาดริด ระบุ
ทั้งนี้ สมัยเป็นนักเตะ โซลารี่ วัย 42 กะรัต เคยค้าแข้งกับ เรอัล มาดริด ช่วงระหว่างปี 2000-2005 และมีสถิติลงเล่น 204 นัด ทำได้ 22 ประตู โดยเข้ามาคุมทีมทีม เรอัล มาดริด กาสตีย่า ต่อจากซีเนอดีน ซีดาน ที่ขยับไปคุมทีมชุดใหญ่ในปี 2016
