เกมพรีเมียร์ลีกเมื่อวันเสาร์ที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมาแทบจะลงสนามเกือบครบทุกคู่ โดยไฮไลท์อยู่ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ซึ่งบทลงเอยจบด้วยผลเสมอ 2-2 แบบสุดดราม่าท้ายเกม ขณะที่บิ๊กทีมต่างเก็บชัยพร้อมหน้าทั้งแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านยำใหญ่ เบิร์นลี่ย์ 5-0 และ ลิเวอร์พูล บุกเชือดฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ 1-0
โดยหลังจบเกมมีสถิติเกิดขึ้นหลายอย่างมีอะไรบ้างไปดูกัน
- นับตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาลที่แล้ว มี 22 เกมในศึก พรีเมียร์ลีก ที่มีทีมทำได้ถึง 5 ประตูขึ้นไป และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คือทีมที่ทำได้บ่อยที่สุดถึง 9 ครั้งรองลงมาเป็น อาร์เซน่อล 5 ครั้ง, สเปอร์ และ ลิเวอร์พูล 3 ครั้ง
- ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ทำประตูจากนอกกรอบเขตโทษในศึก พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ไปแล้ว 7 ลูก ซึ่งมากกว่าทุกๆ ทีม
- เชลซี ทำสถิติไม่แพ้ใครในเกม พรีเมียร์ลีก ที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ 65 เกมติด (ชนะ 54 เสมอ 11) โดยครั้งล่าสุดที่พวกเขาปราชัยคารังคือแพ้ อาร์เซน่อล 3-5 เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2011
- นับตั้งแต่ อองโตนี่ มาร์กซิยาล ลงเล่นนัดแรกให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อเดือนกันยายน ปี 2015 เขาทำประตูให้ “ปีศาจแดง” (รวมทุกรายการ) ไปแล้ว 40 ลูก ซึ่งถือว่ามากกว่าทุกๆ คนในทีมปัจจุบัน และสองประตูที่ยิง เชลซี ถือเป็นเกมแรกที่ มาร์กซิยาล ซัดเบิ้ลนับตั้งแต่เกมที่พบกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2016
- ลิเวอร์พูล ทำสถิติเป็นสโมสรที่ 4 ที่เก็บชัยชนะนอกบ้านในเกม พรีเมียร์ลีก ได้ครบ 200 นัด ต่อจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เชลซี และ อาร์เซนอล
- โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ทำประตูให้สโมสรในอังกฤษ (นับรวมทุกรายการในการเล่นให้ทั้ง ลิเวอร์พูล และ เชลซี) ไปแล้ว 50 ลูก โดยแบ่งเป็น “หงส์แดง” 48 ลูก และ “สิงห์บลูส์” 2 ลูก
- นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด (แพ้ ไบรท์ตัน 0-1) เป็นทีมที่ 4 ในประวัติศาสตร์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดี ที่แพ้เกมเหย้า 5 นัดแรกของฤดูกาล ต่อจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฤดูกาล 1930-31, พอร์ทสมัธ ฤดูกาล 2009-10 และ โบลตัน วันเดอเรอร์ส ฤดูกาล 2011-12
- ไรอัน แซสเซอญง ปีกซ้ายดาวรุ่ง ฟูแล่ม ทำสถิติเป็นนักเตะอายุน้อยสุด (18 ปี กับ 155 วัน) ที่ทำประตูในเกมพรีเมียร์ลีกได้ (เกมที่ออกไปแพ้ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ 2-4) นับตั้งแต่ มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ทำเอาไว้เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2016 นอกจากนี้ แซสเซอญง ยังเป็นนักเตะที่เกิดปี 2000 รายแรกที่ทำประตูในเกมลีกสูงสุดเมืองผู้ดีอีกด้วย
