จังหวัดบุรีรัมย์ของไทย ที่มีความฝันจะปรับโฉมตัวเองให้กลายเป็นศูนย์กลางกีฬาโลก กำลังจะเผชิญบททดสอบแรกช่วงปลายสัปดาห์นี้ กับการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งรถจักรยานยนต์รายการ “โมโต จีพี” ที่คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวหลายหมื่นคนเดินทางมายังจังหวัดนี้
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า แม้การได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโมโต จีพี จะถือเป็นความสำเร็จอย่างมาก แต่ก็ยังมีการคาดการณ์ว่า บุรีรัมย์อาจจะมองไปถึง การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรถยนต์สูตร 1 หรือฟอร์มูลาวัน ในอนาคต
ด้วยจำนวนประชากรเพียงแค่ 30,000 คน บุรีรัมย์มีชื่อเสียงขึ้นมาอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จากการลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในโครงสร้างพื้นฐานด้านกีฬา
หลังจากสร้างสนามกีฬาความจุ 32,600 ที่นั่ง ภายใต้ชื่อ “ปราสาทสายฟ้า” ในปี 2554 เพื่อใช้เป็นสนามแข่งขันสำหรับสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์ไทยพรีเมียร์ ลีก อีก 3 ปีต่อมา ก็ถึงเวลาของสนามแข่งรถ “ช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต” มูลค่าก่อสร้าง 60 ล้านดอลลาร์ ที่ปัจจุบัน กลายเป็นสถานที่จัดการแข่งขันกีฬารายใหญ่สุดแห่งหนึ่งในประวัติศาสตร์ไทย
บุรีรัมย์ได้รับสิทธิในการเป็นผู้จัดการแข่งขันโมโตจีพี หลังจากไทยยกเลิกแผนการที่จะจัดการแข่งขันฟอร์มูลา วัน กลางคืน บนถนนสายต่างๆ ในเมืองหลวงของประเทศ
โมโต จีพี ที่จะเริ่มเปิดการแข่งขันระหว่างวันที่ 5-7 ตุลาคมนี้ สะท้อนให้เห็นถึงวิธีการที่บุรีรัมย์ จังหวัดเล็กๆ ของไทยก้าวขึ้นมาอยู่ท่ามกลางความสนใจของนานาชาติ
นอกจากโมโต จีพี แล้ว ยังมีการพูดคุยกันอย่างมากว่า “เนวิน ชิดชอบ” อาจจะพยายามดึงการแข่งขันฟอร์มูลา วัน รายการที่ใหญ่กว่า และโด่งดังกว่า เข้ามาจัดการแข่งขันในบุรีรัมย์ เพื่อเติมเต็มความต้องการในด้านการท่องเที่ยว และกีฬาของไทย
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ชี้ว่า ที่ผ่านมา ส่วนผสมระหว่างเมืองเล็กๆ กับฟอร์มูลาวัน มักไม่ค่อยประสบความสำเร็จมากนัก ตัวอย่างเช่น สนามการแข่งขันที่เกาหลีใต้ โคเรียน กรังด์ ปรีซ์ ถูกถอดออกจากปฏิทินการแข่งของฟอร์มูลา วัน เพียง 3 ปีเท่านั้น หลังจากที่มีการจัดแข่งเป็นครั้งแรกที่ยอนกัม เมืองในชนบทของเกาหลีใต้เมื่อปี 2553
เอเอฟพี ระบุว่า สำหรับในขณะนี้ เรื่องที่ทุกฝ่ายกำลังจับตาอยู่ตรงที่ว่า จะมีผู้คนเดินทางไปชมการแข่งขันมากน้อยเท่าใด เมื่อพิจารณาจากค่าแรงขั้นต่ำในไทยที่ตกวันละประมาณ 10 ดอลลาร์ กับราคาตั๋วเข้าชมการแข่งขัน ที่มีราคาเริ่มต้น 60 ดอลลาร์ สำหรับฝั่งยืนชม และราคาพุ่งไปหลายร้อยดอลลาร์ในจุดชมการแข่งขันที่ดีกว่านั้น
อย่างไรก็ดี เบื้องต้นสัญญาณที่ส่งออกมายังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี จากการที่ตั๋วเข้าชมที่จำหน่ายผ่านทางเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของโมโตจีพี จำหน่ายหมดแล้ว