พุฒ ล้อเหล็ก อำลาโลกไปด้วยวัย 68 ปี เหลือทิ้งไว้แต่ตำนานบนสังเวียนมวยไทย “ไอ้หนูเมืองตรัง” ผู้ที่ได้รับการชื่นชมว่า เป็นนักชกอัจฉริยะ
การเสียชีวิตของ ทวี พิพัฒกุล ซึ่งมีชื่อที่ใช้ขึ้นชกว่า “พุฒ ล้อเหล็ก” นักมวยไทยชื่อดังในอดีต ทำให้หลายคนในวงการมวยไทยพากันเศร้าโศกกับการจากไปครั้งนี้ แต่สำหรับเด็กรุ่นใหม่อีกหลายคน ต้องยอมรับว่า ยังไม่รู้ประวัติความเป็นมาของตำนานมวยไทยรายนี้มากนัก
เจ้าของฉายา “ไอ้หนูเมืองตรัง” หรือ “ไอ้หนูย่านตาขาว” ได้ชื่อว่าเป็นนักชกอัจฉริยะ จากการที่ตลอดชีวิตการชกมวย ขึ้นชกกว่า 80 ครั้ง ไม่เคยถูกนับ หรือแพ้น็อกเลยสักไฟต์ เป็นแชมป์ทั้งมวยไทย และมวยสากล 2 เวทีลุมพินี-ราชดำเนิน
ผู้คนในแวดวงมวยต่างจดจำพุฒได้ จากฝีมือการชก ที่เป็นนักมวยหมัดคม ต่อยแม่น ฝีมือในเชิงมวยไทยจัดจ้าน เตะก้านคอเก่ง มีลูกถีบสกัดที่ทำให้คู่ต่อสู้ปวดหัว โดย พุฒ หัดมวยครั้งแรกเมื่ออายุ 15 ปี ที่ค่ายมวย ศ.ภิญโญ ของ ครูสวัสดิ์ แสงสุวรรณชัย ใช้ชื่อว่า “ประกายเทพ ศ.ภิญโญ” แม้ว่าจะชอบปลากัดมาก แต่เห็นนักมวยซ้อมจึงอยากชกมวยบ้าง ตระเวนชกแถวภาคใต้ ชกชนะรวด 10 กว่านัด
จากนั้นได้ไปฝึกมวยกับ “กิ่งแก้ว (ล้อเหล็ก) บางยี่ขัน” แชมป์รุ่นฟลายเวทของสนามมวยเวทีลุมพินีในยุคนั้น และเป็นอาแท้ๆ ของพุฒ นำพุฒมาชกที่เมืองกรุงเมื่อต้นปี 2512 เปลี่ยนชื่อ และค่ายใหม่เป็น “พุฒ ล้อเหล็ก” ขึ้นชกที่สนามมวยยเวทีลุมพินี ครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2512 เป็นฝ่ายชนะคะแนน “ศิริณรงค์ ศักดิ์ธานินทร์”
ตลอดชีวิตที่โลดแล่นอยู่บนสังเวียนผ้าใบ พุฒปะทะฝีมือกับยอดมวยไทยร่วมสมัยมามากมาย เป็นนักชกเบอร์ 1 ในรายการ ”ศึกทหารเอก” ของ ”ครูเฒ่า” ชนะ ทรัพย์แก้ว คว้าแชมป์มวยไทยรุ่น 122 ปอนด์ เวทีลุมพินี
ชนะคะแนน สามย่าน สิงห์ศรทอง พร้อม คว้าแชมป์มวยสากลรุ่น 135 ปอนด์ เวทีราชดำเนิน ชนะน็อก มาลัยทอง ศิษย์ขุน และเคยชกชิงตำแหน่งยอดมวยไทย ชนะคะแนน ศิริมงคล ลูกศิริพัฒน์ ยอดมวยแปดริ้ว ที่สนามกีฬาหัวหมาก
พุฒได้รับการยกย่องว่าเป็นยอดมวยอัจฉริยะ มีสายตาดีมาก จึงไม่เคยพลาดท่าถูกคู่ต่อสู้อัดนับ หรือแพ้น็อกใครเลย โดยเขาโด่งดังแบบมวยไทยมากที่สุดในช่วงปี 2516-2517 ชนะยอดมวยดังในยุคนั้นหลายคน “ชนะ ทรัพย์แก้ว” ได้สนับสนุนให้พุฒหันมาชกมวยสากลบ้าง ปรากฏว่า ”พุฒ ล้อเหล็ก” ครองแชมป์รุ่นไลท์เวทของเวทีลุมพินี และรองแชมป์โลกรุ่นจูเนียร์เวลเตอร์เวทของสมาคมมวยโลก ก่อนที่สังขารจะโรยยา จึงแขวนนวมไปโดยปริยาย
โพลสำรวจของนายธีรยุทธ บุญมี เมื่อปี 2542 ระบุว่า พุฒ คือยอดนักมวยไทยที่ได้รับคะแนนนิยมสูงสุดเป็นอันดับ 1 ในรอบ 50 ปี (2492–2542) เพราะในช่วงเวลา 11 ปี ด้วยสถิติการชกมวย 80 กว่าครั้ง พุฒ ล้อเหล็ก ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาคือยอดมวยไทยตัวจริง ที่มีทั้งความฉลาดปราดเปรียว ความว่องไวไหวพริบ มีเล่ห์เหลี่ยมชั้นเชิงหรือกลยุทธ์ในการเอาชนะคู่ต่อสู้ จนเกจิมวยหลายคนก็ยอมรับว่า เขาคืออีกหนึ่งในตำนานมวยไทยยอดมวยฝีมือ
ในด้านชีวิตครอบครัวนั้น เขาแต่งงานกับ ครูฉลวย พิพัฒกุล น้องสาวของเพื่อนรัก ที่ครองคู่กันยาวนานกว่าสี่สิบปี มีทายาทด้วยกัน 3 คน คนโตเป็นผู้หญิง และอีกสองคนเป็นผู้ชาย
หลังจากแขวนนวมเลิกชกมวย พุฒก็กลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเกิด ในจังหวัดตรังมีความสุขตามอัตภาพ เลี้ยงไก่ชน เลี้ยงปลากัด ซึ่งเป็นสิ่งที่พุฒชอบมาก นอกจากการชกมวย ก่อนที่จะมาช่วยลูกชายคนกลาง ทำโรงยิมสอนมวยเพื่อออกกำลังกาย และได้รับการติดต่อจาก สมชาย พูลสวัสดิ์ ประธานเทคนิค สมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย เจ้าของค่ายมวย ”ลูกเจ้าพ่อโรงต้ม” ให้ไปช่วยดูแลค่ายที่ อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี พร้อมกับทำมวยอาชีพชกเวทีมาตรฐานด้วย ซึ่งพุฒใช้ชีวิตในช่วงท้ายๆ อยูที่สระบุรีเป็นส่วนใหญ่
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา หลังเดินทางกลับบ้านที่จังหวัดตรัง พุฒมีอาการปวดท้องอย่างหนัก ครอบครัวนำตัวส่งโรงพยาบาลในจังหวัดตรัง ก่อนส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ปรากฏว่าเส้นเลือดใหญ่ในท้องแตก แพทย์ต้องยื้อชีวิตทำการผ่าตัดมาราธอนถึง 10 ชั่วโมง แต่อาการก็ยังโคม่าอยู่
พุฒต้องนอนอยู่ห้องไอซียูตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา จนเมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา (1 มิ.ย.) จึงสิ้นลมจากโลกไปอย่างสงบ ด้วยวัย 68 ปี สาเหตุเนื่องจากภาวะหัวใจขาดเลือด ปิดตำนานยอดมวยเอกที่ถูกกล่าวขานยิ่งใหญ่มากว่าครึ่งศตวรรษ
ในวันพรุ่งนี้ (4 มิ.ย.) ครอบครัว และญาติๆ มีกำหนดที่จะเคลื่อนศพกลับไปยังบ้านเกิด จากนั้นจะตั้งบำเพ็ญกุศล ที่สมาคมย่านตาขาว อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรังต่อไป
- ‘ผ่อนปรน’ เฟส 3 คนหวาด ผับ บาร์ สนามมวย ชี้ ‘พ.ร.ก.ฉุกเฉิน’ ยังจำเป็น
- คาด ‘ไซเบอร์ บูลลี่’ ต้นเหตุมวยปล้ำสาวญี่ปุ่น ‘ฮานะ คิมูระ’ เสียชีวิต
- ‘อื้อ อพลอลโล่’ เซียนมวยรุ่นใหญ่ชื่อดัง เสียชีวิตจาก ‘ไวรัสโควิด-19’ ติดจากเวทีลุมพินี
