ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ ทนกระแสเสียงวิจารณ์ไม่ไหวกลับลำยกเลิกการใช้มาตรการลดเงินเดือนพนักงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเล่นในสนามเพื่อพยุงฐานะทางการเงินของสโมสรหลังจากขาดรายได้ในช่วงที่การแข่งขันต้องระงับเพราะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
สเปอร์ส ตัดสินใจใช้มาตรการลดเงินเดือนพนักงาน 550 คนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเล่นในสนามเป็นเวลาสองเดือน เพื่อพยุงฐานะทางการเงินของสโมสรหลังจากขาดรายได้ในช่วงที่การแข่งขันต้องระงับเพราะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งรวมถึง แดเนียล เลวี่ ประธานสโมสร และบรรดาผู้อำนวยการด้วย โดยจะจ่ายเงินเดือนให้ 80 เปอร์เซ็นต์
หลังการประดาศดังกล่าวทำให้เกิดเสียงวิจารณ์อย่างหนักว่า “ไก่เดือยทอง” เป็นสโมสรใหญ่ที่มีฐานะการเงินค่อนข้างมั่นคงจนล่าสุดทนแรงกดดันไม่ไหวออกมากลับลำประกาศยกเลิกการใช้มาตรการดังกล่าวแล้ว โดยจะจ่ายค่าจ้างให้พนักงานเต็มจำนวน แต่บอร์ดบริหารยังถูกลดค่าจ้างตามเดิม
สเปอร์ส แถลงการณ์ใจความสำคัญว่าว่า “เราตระหนักและทราบดีว่าแฟนๆหลายคนรู้สึกไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของเราเกี่ยวกับเรื่องนี้ และหลังจากเรามีการทบทวนอีกครั้งจึงได้ตัดสินใจว่าพนักงานทุกคนจะได้รับค่าจ้างเต็มจำนวนจากสโมสรทั้งในเดือนเมษายน และพฤษภาคม ซึ่งจะมีเพียงบอร์ดบริหารเท่านั้นที่ถูกลดค่าจ้าง”
“นี่เป็นการตอกย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า เราแบกรับความกดดันที่แตกต่างกับธุรกิจประเภทอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่ต้องการความช่วยเหลือจากโครงการของรัฐบาล”
ขณะเดียวกัน สเปอร์ส ยังเป็นสโมสรแห่งแรกของพรีเมียร์ลีก ที่จัดหาเครื่องมือคัดกรองผู้ติดเชื้อโควิด-19 แบบ drive-through (ขับรถผ่าน)มาติดตั้งสนาม ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ สเตเดี้ยม ให้เจ้าหน้าที่ระบบบริการสาธารณสุขแห่งชาติ (NHS)
สำหรับปัจจุบันเหลือเพียง นิวคาสเซิ่ล , บอร์นมัธ และ นอริช ซิตี้ ที่ยังประกาศจุดยืนว่าจะลดค่าจ้างของพนักงาน
