สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ปฏิเสธคำอุทธรณ์ของ ซามีร์ นาสรี่ จากการละเมิดกฎขององค์กรต่อต้านการใช้สารกระตุ้น พร้อมเพิ่มโทษแบนจาก 6 เดือนเป็น 18 เดือน แต่ยังมีเรื่องดีอยู่บ้างเมื่อโทษแบนถูกนับให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 ก.ค.ปีก่อน ทำ
ให้เขาจะกลับไปซ้อมกับทีมไหนๆ ก็ได้ในช่วงเดือนพ.ย.นี้
ในช่วงเดือนธันวาคม ปี 2016 ซึ่งเป็นตอนที่ นาสรี่ ย้ายจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปเล่นให้ เซบีย่า ด้วยสัญญายืมตัวนั้น เขามีอาการป่วยอย่างรุนแรง ถึงขนาดอ้วกออกมา ทำให้ต้องติดต่อไปหาอดีตแฟนสาวของเขาที่เป็นแพทย์เพื่อให้มาดูอาการของเขา ซึ่ง
หลังจากตรวจในขั้นต้นแล้วเขาให้ จามิล่า โซซาห์ดาห์ ผู้ก่อตั้งร่วมของ ดริป ด็อกเตอร์ส บริษัทที่ทำการรักษาด้วยการหยดยาเข้าหลอดเลือด เข้ามาดูแลต่อ
ทั้งนี้ โซซาห์ดาห์ รักษา นาสรี่ ด้วยการหยดน้ำที่มีสารอาหารเป็นส่วนประกอบเข้าร่างกายของเขาเป็นจำนวน 500 มิลลิลิตร เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ปี 2016 ซึ่งจุดนี้คือประเด็นที่เป็นปัญหา เพราะกฎขององค์กรต่อต้านการใช้สารกระตุ้น (Wada) ระบุเอาไว้ว่านัก
กีฬาที่ยังทำการแข่งขันรายการต่างๆ อยู่สามารถรับสารเข้าร่างกายได้ไม่เกิน 50 มิลลิลิตรต่อ 6 ชั่วโมง
หลังจากโดนสอบสวนแล้วนั้น ดาวเตะวัย 30 ปีโดนสั่งแบน 6 เดือน เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่แข้งชาวฝรั่งเศสตัดสินใจยื่นอุทธรณ์กับบทลงโทษของ ยูฟ่า ทันที ซึ่งสุดท้ายแล้วการอุทธรณ์ของ นาสรี่ ไม่ประสบความสำเร็จ และทำให้สหพันธ์
ฟุตบอลยุโรปเพิ่มโทษแบนเป็น 18 เดือน โดยจะถูกนับให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ปีก่อน และเขาจะกลับมาซ้อมกับทีมใดๆ ก็ตามได้ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป
แถลงการณ์ของ ยูฟ่า ระบุว่า “ซามีร์ นาสรี่ จะโดนแบนเป็นเวลา 18 เดือน โดยโทษแบนนี้ถูกนับให้เริ่มมีผลในวันที่ 1 กรกฎาคม 2017 ซามีร์ นาสรี่ จะได้รับอนุญาตให้กลับมาซ้อมกับสโมสรฟุตบอลใดๆ ก็ตามได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2018”
ทั้งนี้ นาสรี่ ไม่ได้เล่นให้กับทีมไหนอีกเลย นับตั้งแต่ที่ยกเลิกสัญญากับ อันตัลยาสปอร์ ทีมในศึก ซูเปอร์ลีก ตุรกี ด้วยความยินยอมร่วมกัน เมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา
