หลังจากลิเวอร์พูลบุกพ่ายวัตฟอร์ดแบบล็อกถล่ม 0-3 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมาทำให้ หยุดสถิติชนะรวดไว้ที่ 18 เกมเทียบเท่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เตคยทำไว้ และหยุดสถิติไร้พ่ายติดต่อกันที่ 44 นัดหมดสิทธิ์ทาบสถิติสูงสุดของอาร์เซนอลที่ทำไว้ 49 นัด
แต่จากการที่พวกเขาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมมาตลอดซีซั่นลงเล่นไป 28 เกมชนะ 26 เสมอ 1 แพ้1 ทำให้ยังมีโอกาสทำลายสถิติอื่นมากมายใมน 10 เหมที่เหลือ
1.คว้าแชมป์แต้มสูงสุด
“หงส์แดง” เก็บไปแล้ว 79 แต้มจาก 28 เกมต้องการอีก 22 คะแนนจาก 10 เกมที่เหลือหากทำได้จะทำลายสถิติ 100 คะแนนของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่ทำไว้ในซีซั่น 2017-18
2.คว้าแชมป์เร็วที่สุด
หากลิเวอร์พูลเก็บชัยชนะ 4 นัดจากนี้ที่ประกอบด้วยบอร์นมัธ,เอฟเวอร์ตัน,คริสตัล พาเลซ และ แมนฯ ซิตี้ หากพวกเขาชนะรวดทุกนัดรวมถึงแมนฯ ซิตี้ได้ในวันที่ 5 เมษายนจะเก็บเพิ่มเป็น 91 คะแนน ขณะที่แมนฯ ซิตี้จะมี 66 แต้ม(ชนะ3เกมแพ้ลิเวอร์พูล)โดยแมนฯ ซิตี้จะเหลือเกมในมือ 7 เกมแม้เก็บชัยได้หมดจะจบยซีซั่นด้วย 87 แต้มยังไงก็ไล่ไม่ทัน ทำให้”หงส์แดง” จะทำลายสถิติคว้าแชมป์เร็วที่สุดที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำไว้ในวันที่ 14 เมษายน ฤดูกาล 2000-01
3.ทิ้งห่างอันดับ 2 มากที่สุด
ตอนนี้ “หงส์แดง” ทิ้งห่างรองจ่าฝูงอย่างแมนฯ ซิตี้ 22 คะแนน แต่แข่งมากกว่า 1 นัดหากรักษาช่องว่างนี้ไว้ได้จนจบซีซั่นจะทำลานสถิติเดิมที่ “เรือใบสีฟ้า” ทำไว้ด้วยการทิ้งห่างแมนฯ ยูไนเต็ด 19 แต้ม ในซีซั่น 2017-18
4.เก็บชัยชนะมากที่สุด
ถ้าลิเวอร์พูลเก็บชัยชนะอีก 7 นัด จาก 10 เกมที่เหลือจะทำลายสถิติชนะมากที่สุด 32 นัดที่แมนฯ ซิตี้ ที่เคยทำไว้ในซีซั่น 2017-18 และ 2018-19
5.ชนะเกมเหย้ามากที่สุด
ตอนนี้ลิเวอร์พูลเก็บชัยเกมที่แอนฟิลด์ไปแล้ว 14 นัด ถ้าาเอาชนะเกมเหย้าได้หมด 5 นัดที่เหลือที่ประกอบด้วยบอร์นมัธ, คริสตัล พาเลซ, แอสตัน วิลล่า, เบิร์นลีย์และ เชลซี จะทำลายสถิติเดิม 18 นัดที่เชลซี, แมนฯ ยูไนเต็ด และ แมนฯ ซิตี้ ทำไว้
6.ชนะเกมเยือนมากที่สุด
ตอนนี้ลิเวอร์พูลชนะเกมเยือน 12 นัด จาก 14 เกมที่ผ่านมาหากเอาชนะเกมนอกบ้านได้หมด 5 นัดที่เหลือที่ประกอบด้วยเอฟเวอร์ตัน, แมนฯ ซิตี้, ไบรท์ตัน, อาร์เซนอล และนิวคาสเซิ่ล จะทำลายสถิติเดิมที่แมนฯ ซิตี้ทำไว้ 16 นัดในฤดูกาล 2017-18
