องค์กรผู้ตัดสินเกมการแข่งขันระดับอาชีพของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ชี้แจงชัดเจนประเด็นดราม่าทำไม เอฟเวอร์ตัน ชวดได้ประตูชัยเกมเสมอแมนฯ ยูไนเต็ด 1-1 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมา
องค์กรผู้ตัดสินเกมการแข่งขันระดับอาชีพของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ (พีจีเอ็มโอแอล) ยืนยันว่าตามกฎแล้วจังหวะที่ โดมินิค คัลเวิร์ท-เลวิน ยิงประตูได้ในช่วงทดเวลาถือว่า กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน ดาวเตะ เอฟเวอร์ตัน เข้าข่ายอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า จนเป็นเหตุให้ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” ชวดได้ประตูชัย
จังหวะดังกล่าวคัลเวิร์ท-เลวิน ยิงไปแฉลบ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ก่อนที่บอลจะไหลเข้าประตู แต่ทีมงาน วีเออาร์ ตัดสินให้ไม่เป็นประตูหลังมองว่าเป็นจังหวะล้ำหน้าจากการที่ ซิกูร์ดส์สัน นั่งอยู่ตรงหน้า ดาบิด เด เคอา ผู้รักษาประตูแมนฯ ยูไนเต็ด โดยที่ไม่มีผู้เล่นคนไหนของ แมนฯ ยูไนเต็ด อยู่ต่ำกว่าเขาด้วย
จากการตัดสินดังกล่าวหลายคนไม่เห็นด้วยกับการตัดสินครั้งนี้ โดยเฉพาะคาร์โล อันเชล็อตติ กุนซืออิตาเลียนของเอฟเวอร์ตันที่เดินปรี่เข้าไปประท้วงกรรมการจนโดนใบแดงทำให้โดนแบนอย่างน้อย 1 เกมซึ่งคือแมตช์พบ เชลซี ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ วันอาทิตย์ที่ 8 มี.ค.นี้
พีจีเอ็มโอแอล แถลงการณ์ชี้แจงถึงจังหวะปัญหาว่า “ตอนแรกกรรมการในสนามตัดสินให้มันเป็นประตู แต่ทีมงาน วีเออาร์ แนะนำกับกรรมการว่า ซิกูร์ดส์สัน อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าและเป็นตำแหน่งที่บดบังทัศนวิสัยของ ดาบิด เด เคอา โดยตรง และมีผลกับความสามารถในการเซฟของ เด เคอา อย่างชัดเจน”
ทั้งนี้ คณะกรรมการสมาคมฟุตบอลนานาชาติ (ไอเอฟเอบี) ซึ่งมีหน้าที่กำหนดกฎของฟุตบอลกำหนดเงื่อนไขไว้ว่านักเตะจะถูกตัดสินว่าล้ำหน้าก็ต่อเมื่อมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเล่นของทีมตัวเอง หรือขัดขวางการเล่นของคู่แข่ง โดยในกรณีที่จะเข้าข่ายการมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเล่นของทีมตัวเองประกอบด้วยการที่นักเตะคนนั้นๆ เล่นบางอย่างด้วยตัวเอง จับบอลที่มีคนส่งมาให้ และอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าอยู่แล้วในตอนที่เพื่อนร่วมทีมจับบอลในจังหวะแรก
ส่วนกรณีเข้าข่ายว่าขัดขวางการเล่นของคู่แข่งนั้น มีอย่างเช่น การทำให้คู่แข่งเล่นไม่ได้หรือไม่สามารถเล่นได้ด้วยการบดบังทัศนวิสัยของคู่แข่งอย่างชัดเจน เข้าปะทะกับคู่แข่งเพื่อเล่นบอล พยายามเล่นบอลในตอนที่อยู่ใกล้ๆ ในจังหวะที่ถือว่ามีผลกระทบกับคู่แข่ง และการทำบางอย่างที่ส่งผลกระทบกับความสามารถในการที่คู่แข่งจะเล่นบอล เป็นต้น
