กลายเป็นหนึ่งเกมแย่ๆสำหรับการคุมทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือเยอรมันหลังจากลิเวอร์พูลบุกไปโดนวัตฟอร์ดทีมรองบ๊วยไล่อัดพังพาบแบบหมดสภาพว่าทีมแชมป์ 3-0
จากความปราชัยเกมนี้ทำให้ “หงส์แดง” จบสถิติชนะติดต่อกันไว้ที่ 18 นัด และไม่แพ้ใครในลีกที่ 44 เกมเท่านั้น
นอกจากนี้หากมองถึงสถิติหลังเกมเป็นอีกแมตช์ที่หงส์แดงเล่นกันได้อย่างย่ำแย่จริงแม้มีเปอร์เซนต์ครองบอลถึง 71% ผ่านบอลมากถึง 730 ครั้งเข้าเป้า 85% หรือ 618 ครั้งแต่มีโอกาสยิงประตูเพียงแค่ 7 ครั้งเท่านั้นซึ่งน้อยกว่าวัตฟอร์ดครึ่งนึงเลยทีเดียว
ในโอกาส 7 หนนั้นเป็นการยิงเข้ากรอบเพียงแค่ครั้งเดียว ขณะที่วัตฟอร์ดยิงเข้ากรอบ 5 แปรเปลี่ยนเป็นประตูได้ 3 ลูก
จากชัยชนะเกมนี้ทำให้วัตฟอร์ดหนีจากโซนตกชั้นขยับจากอันดับ 19 ขึ้นมารั้งที่ 17 แต่ก็ยังไม่ถือว่าปลอดภัยมากเมื่อมีแต้มเท่าบอร์นมัธอันดับ 18 และนำแอสตัน วิลล่า อันดับ 19 แค่ 2 แต้ม
นอกจากนี้ยังมีสถิติอื่นๆเกิดขึ้นอีกมากมายดังนี้
- วัตฟอร์ดเป็นทีมแรกที่คว้าแต้มจาก ลิเวอร์พูล ในรอบ 132 วัน
- วัตฟอร์ดเป็นทีมแรกที่ ลิเวอร์พูล ยิงไม่ได้นับตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2019
- อิสไมล่า ซาร์ นักเตะคนล่าสุดของ วัตฟอร์ด ที่ยิง ลิเวอร์พูล ได้ถึง 2 ประตู ในเกมเดียว คนก่อนที่ทําได้คือ โอเดียน อิกาโล่ เมื่อปี 2015
- เกมนี้ อิสไมล่า ซาร์ มีโอกาสยิง 6 ครั้งน้อยกว่าโอกาสยิงของ ลิเวอร์พูล ทั้งทีมแค่ครั้งเดียว
- นี่เป็นครั้งที่สองในเกมพรีเมียร์ลีก 172 นัดภายใต้การคุมทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ ที่ลิเวอร์พูลมีโอกาสยิงเพียงครั้งเดียวในครึ่งแรก โดยก่อนหน้านี้เกิดขึ้นในเกมกับเชลซีเมื่อเดือนมกราคม 2017 ที่แอนฟิลด์
- ไนเจล เพียร์สัน เป็นกุนซือชาวอังกฤษคนแรกที่เอาชนะลิเวอร์พูลได้ในเกมพรีเมียร์ลีกนับตั้งแต่แซม อัลลาไดซ์ ทำได้สมัยคุมคริสตัล พาเลซเมื่อเดือนเมษายน 2017
- ความปราชัยเกมนี้เป็นการแพ้ของทีมจ่าฝูงต่อทีมหนีตกชั้นที่ขาดลอยที่สุดตั้งแต่ปี 1985 ซึ่งหนนั้นเป็นเลสเตอร์ เอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 3-0 เมื่อ 23 พฤศจิกายน
