หลังจาก “โค้ชด่วน” ดนัย ศรีวัชรเมธากุล หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมวอลเลย์บอลหญิงไทย ประกาศลาออกจากตำแหน่งเพื่อรับผิดชอบที่ไม่สามารถพาทีมผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายโอลิมปิกเกมส์ 2020 ได้สำเร็จนั้น ล่าสุดนายกสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลฯ ยืนยันว่ายังไม่ตอบรับการลาออกขอกลับหารือกันก่อน
นายสมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย ชื่นชมผลงานนักวอลเลย์สาวไทยแม้ยังสานฝันไม่สำเร็จ ขณะที่เรื่องโค้ชขอลาออกยังต้องกลับไปหารือกันอีกครั้ง รวมทั้งวางแผนรับมือหากรุ่นพี่อำลาทีม
ประมุขส.ลูกยางไทย กล่าวว่า “นักกีฬาทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว เล่นได้ตามแผนที่โค้ชวางไว้ แต่คู่ต่อสู่ของเราคือเกาหลีใต้ที่เล่นได้ดีกว่า ทุกอย่างเข้าทางเขาหมดเลย เขามีโอกาสมากกว่า และทำได้ดีกว่า ซึ่งเป็นเรื่องปกติของกีฬาที่มีแพ้ มีชนะ นักกีฬาเสียใจไม่แพ้แฟนวอลเลย์บอล สิ่งที่ดีที่สุดคือให้กำลังใจ”
“สมาคมฯคงต้องกลับไปหารือ ทบทวนกันอีกครั้ง รวมถึงประเด็นของโค้ชด่วนที่ประกาศจะลาออก ต้องขอชื่นชมในการตัดสินใจรับผิดชอบจากการทำหน้าที่ไม่ประสบความสำเร็จ เขาได้แสดงสปิริตในครั้งนี้ แต่การพิจารณาของสมาคมฯ คงจะต้องกลับไปหารือกันอีกครั้งว่าโค้ชด่วนยังมีความเหมาะสมที่จะอยู่ต่อ หรือจะมีใครคนอื่นเหมาะสมที่จะเข้ามาแทน”
นายกฯวอลเลย์บอลไทยยังเผยอีกว่า ในส่วนของโค้ชต่างชาตินั้นเราเคยมีการพูดคุยกัน ว่าควรจะมีหรือไม่ นี่อาจจะเป็นหนึ่งประเด็นที่เราต้องพิจารณา ว่าโค้ชต่างชาตินั้นจำเป็นแค่ไหนสำหรับทีมไทย เราต้องหารือกันในหลายๆ ปัจจัย ไม่ใช่มองแค่ว่าโค้ชนอกจะเหมาะสมและทำทีมประสบความสำเร็จได้มากกว่าอย่างเดียว มีหลายองค์ประกอบที่ต้องดูควบคู่ไปด้วยกัน เพราะวัฒนธรรมและสรีระของไทยแตกต่างจากชาติอื่น
นอกจากนี้นายสมพรยังเผยถึงประเด็นที่รุ่นพี่หลายคนมีโอกาสอำลาทีมในเร็วๆ นี้ว่า “หากถามว่ากังวลหรือไม่กับช่วงเปลี่ยนผ่าน ความจริงแล้วเราได้เตรียมตัวกันมาพอสมควรแล้ว เห็นได้จากการผลักดันและสร้างนักกีฬารุ่นใหม่ๆ ขึ้นมาและส่งลงเล่นพร้อมกับรุ่นพี่เพื่อหาประสบการณ์อยู่เสมอ เราเตรียมความพร้อมที่จะก้าวขึ้นมาทดแทนในอนาคต”
“สำหรับรุ่นพี่บางคนที่คิดว่าสามารถช่วยทีมได้ต่อเราจะพยายามช่วยให้เขาอยู่ประสานรอยต่อตรงนี้ พร้อมกับเปิดโอกาสให้เด็กใหม่ๆ ซึ่งมาอยู่ในทีมอยู่แล้วได้แสดงศักยภาพมากขึ้น เพื่อจะได้มีความมั่นใจและมีทักษะ รวมถึงมีจิตใจที่แข็งแกร่งรับมือกับความกดดันหนักๆ ในแมตช์ระดับนานาชาติได้ต่อไป”
