‘ลีซอ’ ธีรเทพ วิโนทัย อดีตนักเตะทีมชาติไทย กล่าวถึงการลงนาม MOU สร้างศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ เพื่อฟุตบอลไทย ระหว่าง สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ กับ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ว่าวัตถุประสงค์ของงานนี้คือทางกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ และ สมาคมฯ ได้ลงบันทึกข้อตกลงในการสร้างศูนย์ฝึกฟุตบอลทีมชาติไทย ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี
“สำหรับตัวผมเอง สิ่งเหล่านี้ คือสิ่งสำคัญที่สุดของทีมชาติไทย ในปัจจุบันนี้ เราเห็นตามข่าวว่าที่ผ่านมา ต้องมาดูว่าต้องอยู่โรงแรมไหน ไปซ้อมที่สนามไหน แต่ต่อไปเมื่อศูนย์ฝึกเสร็จ เรามีสถานที่ และสิ่งอำนวยความสะดวกให้นักกีฬาและโค้ชใช้ โดยมีทีมงานระดับมืออาชีพ มาออกแบบและวางแผนดำเนินการ”
“สมัยที่ผมติดทีมชาติไทย ผมเคยมีได้โอกาสคุยกับ ปีเตอร์ รีด ตอนนั้น เขาถามผมว่า ฟุตบอลในประเทศไทยเป็นแบบนี้เหรอ เวลาทีมชาติไทย จะซ้อมทีมงานจะต้องหาสนามซ้อมกันแบบวันต่อวัน บางครั้งพอหาสนามได้ต้องฝ่ารถติดไป ไปถึงสนามยังต้องรอเพราะมีการใช้งานอยู่ จนบางทีโค้ชตัดสินใจให้กลับมาเล่นเวทที่โรงแรมแทน”
“ต้องขอโทษนะครับ ผมต้องขอใช้คำว่า จริงๆ แล้ว ฟุตบอลไทยยัง “ด้อยพัฒนา” และยังไม่เป็นมืออาชีพอย่างแท้จริง สิ่งต่างๆ เหล่านี้ ทำให้โค้ชระดับสูง ไม่สามารถทำงานที่ประเทศไทยได้นาน แน่นอนว่าการมีศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติจะช่วยยกระดับฟุตบอลไทยไปอีกขั้น”
“สำหรับนักฟุตบอลไทยเรื่องของความสามารถนั้นมีอยู่แล้ว แต่เรื่องความรู้ในการเป็นนักฟุตบอลอาชีพที่ดี เขาจำเป็นต้องรู้ ซึ่งมันจะช่วยให้พัฒนา มันไม่ใช่ว่าเราจะเก่งแค่ในสนามอย่างเดียว เรื่องนอกสนาม เช่น เรื่องโภชนาการก็ต้องทราบ การพักผ่อน การดูแลตัวเอง การฟื้นฟูร่างกาย มันสำคัญสำหรับนักฟุตบอล”
“วันนี้เรามีลีกฟุตบอลอาชีพแล้วก็จริง แต่ว่าตัวนักเตะ เราเพิ่งมีลีกอาชีพ ประมาณ 10 ปี แตกต่างจากระดับโลก เป้าหมายสูงสุดของเราคือการไปฟุตบอลโลก ถ้าเรายังไม่เริ่ม โอกาสที่เราจะไปมันน้อยมาก”
“ผมเชื่อว่า ต่อไป รากฐานฟุตบอลไทย อย่างเยาวชน ยิ่งเขาเรียนรู้ความเป็นมืออาชีพได้เร็วมากเท่าไหร่ ได้ความรู้มากเท่าไหร่ เขาก็จะเติบโตไปในอนาคตได้ดี นักฟุตบอลเยาวชนเรามีคนเก่งๆ มากมาย แต่พอโตมาก็เลิกเล่น ตรงนี้จะทำให้ฟุตบอลไทยเป็นมืออาชีพมากขึ้นโดยไม่ต้องไปต่างประเทศ” อดีตกองหน้าทีมชาติไทย กล่าว
สำหรับ โครงการก่อสร้างศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี บนพื้นที่ของการกีฬาแห่งประเทศไทย จำนวน 150 ไร่ เป็นการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ งบประมาณในการสร้างทั้งสิ้น 500 ล้านบาท
