สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประกาศเปิดการประมูลลิขสิทธิ์สื่อและถ่ายทอดสด ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตั้งแต่ฤดูกาลปี 2564 – 2571 ซึ่งลิขสิทธิ์ทั้งหมดประกอบด้วย ไทยลีก 1-4, ช้าง เอฟเอ คัพ, โตโยต้า ลีก คัพ, ฟุตบอลทีมชาติไทยชายและหญิง รวมถึงฟุตซอลลีก ฟุตซอลทีมชาติไทย และฟุตบอลชาดหาด
พล.ต.อ. ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า “วันนี้สมาคมฯ ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่าสมาคมฯ กำลังดำเนินการสรรหาผู้ที่จะเข้ามาถือลิขสิทธิ์สื่อ และถ่ายทอดสดของสมาคมฯ ในอนาคต ทั้งเรื่องของ และผู้สนับสนุนต่างๆ การเตรียมการครั้งนี้เป็นการเตรียมการล่วงหน้าก่อนที่สัญญาต่างๆ จะหมดลงในปีหน้า ทั้งนี้ จะดำเนินการก่อน 1 ปี เพื่อให้บริษัทต่างๆ หรือผู้ที่เข้ามาถือสิทธิ์ถ่ายทอดสด ได้ทำการศึกษาข้อมูล มีการเตรียมตัว และการวางแผนงานที่จะทำในอนาคต การดำเนินการครั้งนี้เราทำอย่างเป็นสากลมาตรฐานทั่วโลกที่เขาทำกัน หรือวงการฟุตบอลในต่างประเทศที่เขาพัฒนาแล้วเขาทำกัน”
“เราคาดหวังว่า เราจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากเดิม รายได้ต่างๆ จะกลับสู่วงการฟุตบอลทั้งเงินสนับสนุนสโมสรต่างๆ ในทุกลีก และเงินที่จะใช้ในการบริหารจัดการทีมชาติไทยทุกชุด ถ้าเราได้เพิ่ม ทุกอย่างก็จะกลับสู่วงการฟุตบอล ไม่ว่าจะเป็นการวางรากฐานพัฒนาเยาวชน ศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ ที่เรากำลังจะสร้างขึ้นมาที่อำเภอมวกเหล็ก สระบุรี ซึ่งจะทำให้ฟุตบอลพัฒนา เราต้องทำทุกอย่างเพื่อก้าวไปข้างหน้า เป็นศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียนให้ได้ ในวันข้างหน้าอีก 20-30 ปี คนอาเซียนต้องดูฟุตบอลไทยลีก”
“วันนี้สิ่งที่ผมทำ ทำเพื่ออนาคตไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง เพราะผมยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะสมัครลงเลือกตั้งสมัยหน้าหรือไม่ แต่ไม่ว่าใครจะมาทำงานต่อ จะได้มีความมั่นคง ผมจะทำทุกอย่างเพื่อวางรากฐาน สร้างมาตรฐานให้กับวงการฟุตบอลไทย เพื่อเป็นมาตรฐานที่ดี และเป็นตัวอย่างให้สมาคมกีฬาอื่นทั่วประเทศ เพราะสิ่งที่ผมทำอยู่นี้ ยังไม่เคยมีสมาคมฯ ใดทำมาก่อน แต่ผมจะทำเป็นตัวอย่าง เราต้องประมูล หรือสรรหาผู้ที่จะเข้ามาบริหารสิทธิประโยชน์อย่างโปร่งใสและเป็นธรรม”
“สิ่งที่ผมทำมาได้สร้างรากฐานพอสมควรแล้ว ใครที่มาทำต่อจากผมจะได้สบายใจ เขาจะมีทุกอย่างที่ผมทิ้งไว้ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ทำงาน การอบรมผู้ฝึกสอน VAR และอื่นๆ รวมทั้งศูนย์ฝึกที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อใช้เป็นที่เก็บตัวสำหรับทีมชาติไทยทุกชุด คนที่มารับหน้าที่ต่อจากผม จะดำเนินการไปได้อย่างสบายใจที่สำคัญคือมีความมั่นคง”
“ฟุตบอลถือเป็นคอนเทนท์ที่สำคัญ มีมูลค่าในทุกๆ ระดับ และเนื่องจากสัญญาฉบับเดิมจะสิ้นสุดลงในปี 2563 สมาคมฯ จึงอยากจะดำเนินการในเรื่องนี้ให้มีความโปร่งใส ด้วยการเปิดกว้างให้ผู้ที่สนใจ เข้าร่วมประมูลลิขสิทธิ์สื่อและถ่ายทอดสด ปี 2564 – 2571”
“ลิขสิทธิ์สื่อและถ่ายทอดสดที่จะมีการประมูลในครั้งนี้ รวมระยะเวลา 8 ปี แน่นอนว่าเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน แต่ทั้งนี้ก็จะทำให้เกิดความยั่งยืนและเป็นประโยชน์กับทุกฝ่ายเพราะคนที่ถือลิขสิทธิ์ จะมีความมั่นใจในการลงทุน สามารถพัฒนาการผลิตเนื้อหา รวมถึงวางแผนขายโฆษณาในระยะยาวได้”
“ในส่วนของฟุตบอลไทยก็จะได้รับประโยชน์จากค่าลิขสิทธิ์เหล่านี้ นำไปใช้ในโครงการพัฒนาต่างๆ ของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ตั้งแต่ระดับรากหญ้า นักกีฬาฟุตบอลระดับเยาวชน นักกีฬาอาชีพ รวมถึง ผู้ฝึกสอน ผู้ตัดสิน และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อเป็นรากฐานอันแข็งแรงที่จะต่อยอดไปยังทีมชาติไทย”
“ปัจจุบันมีหลายประเทศที่มีการพัฒนาด้านฟุตบอลขึ้นมาอย่างชัดเจน จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ ฟุตบอลไทยจะต้องก้าวไปข้างหน้า ไม่หยุดอยู่กับที่ ดังนั้น การมีทุนที่จะช่วยสนับสนุนส่งเสริมให้โครงการทุกโครงการที่เราวางแผนให้กับ สโมสร, ลีก และทีมชาติ ดำเนินการไปได้นั้น เป็นเรื่องสำคัญ เพราะจะทำให้การพัฒนามีเสถียรภาพ และเกิดความต่อเนื่องและยั่งยืน”
“สำหรับรายละเอียดต่างๆ ของประมูลลิขสิทธิ์สื่อและถ่ายทอดสด ปี 2564 – 2571 ในวันที่ 14 ตุลาคมนี้ จะมีเอกสารการเปิดประมูลไปยังบริษัทที่เกี่ยวข้องต่อไปทั้งในและต่างประเทศ”
