“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก2018-19 ดวลจุดโทษเอาชนะ เชลซี แชมป์ยูโรปาลีกซีซั่นที่แล้ว 5-4 หลังเสมอกันในเวลาปกติ 1-1 ต่อเวลาพิเศษเสมอ 2-2 คว้าแชมป์ซูเปอร์ คัพไปครองเป็นสมัยที่ 4 ในประวัติศาสตร์สโมสร
และนี่คือเกร็ดข้อมูลและสถิติที่น่าสนใจจากเกมเมื่อคืนนี้ที่อิสตันบูล ประเทศตุรกี
– นี่เป็นครั้งที่ 4 ที่ ลิเวอร์พูล ได้แชมป์ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ทำให้พวกเขาเป็นอันดับ 2 ร่วมกับ เรอัล มาดริด ในด้านการเป็นแชมป์รายการนี้มากที่สุด เป็นรองแค่ บาร์เซโลน่า กับ เอซี มิลาน ที่ได้แชมป์ 5 สมัย
– ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์สโมสรยุโรปรายการที่ 13 (แชมเปี้ยนส์ ลีก 6, ยูโรปา ลีก 3, ซูเปอร์ คัพ 4)
– ลิเวอร์พูล กลายเป็นทีมแรกจาก พรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2007 ที่ต้องเล่นถึงช่วงดวลจุดโทษ 2 ครั้งภายในเดือนเดียวกัน โดยทีมสุดท้ายก่อนหน้าพวกเขาที่ต้องทำอย่างนั้นคือ มิดเดิ้ลสโบรช์
– เชลซี แพ้ทั้งหมดในศึก ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ 3 ครั้งหลังสุด ทำสถิติเป็นอันดับ 2 ร่วม ที่เป็นรองแชมป์รายการนี้มากที่สุด เป็นรองแค่ บาร์เซโลน่า กับ เซบีย่า ที่เป็นรองแชมป์รายการนี้ 4 สมัย
– เจอร์เก้น คล็อปป์ เป็นกุนซือเยอรมันคนแรกที่คว้าแชมป์ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ
– ซาดิโอ มาเน่ กลายเป็นนักเตะเชื้อสายแอฟริกันคนแรกในรอบราว 13 ปีที่ทำประตูในเกม ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ ได้ โดยคนสุดท้ายก่อนหน้าเขาคือ เฟรเดอริก กานูเต้ อดีตดาวเตะทีมชาติมาลี ที่ทำประตูให้ เซบีย่า ในนัดเจอกับ บาร์เซโลน่า เมื่อปี 2006
– ในปี 2019 มาเน่ ทำประตูในเกมระดับสโมสรไปถึง 19 ลูกจากการลงเล่นในทุกรายการ โดยถ้านับเฉพาะทีมจาก พรีเมียร์ลีก ด้วยกันแล้วนั้น เขาก็เป็นรองเพียง เซร์คิโอ อเกวโร่ ดาวยิง แมนเชสเตอร์ ซิที่ ที่ทำไป 20 ประตูเพียงคนเดียว
– โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ทำได้ถึง 12 ประตู ในการลงเล่นเกมระดับทวีปยุโรปให้กับ เชลซี 16 นัด ซึ่งต่างกับผลงานในเกมลีกที่เจ้าตัวทำได้เพียง 7 ลูกจากการลงเล่นให้ เชลซี 49 เกมแบบฟ้ากับเหว
– ลิเวอร์พูล กับ เชลซี คือทีมจากชาติเดียวกันที่เจอกันเองในเกมระดับทวีปยุโรปมากที่สุด ที่จำนวน 11 ครั้ง
– นี่เป็นเกม ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ ครั้งที่ 8 ที่เป็นการเจอกันเองของทีมจากชาติเดียวกัน และเป็นหนแรกที่ทีมจากอังกฤษมาดวลกันเอง
– นี่เป็นครั้งที่ 5 ในเกม ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ 7 ครั้งหลังสุดที่ต้องดวลกันถึงช่วงต่อเวลาพิเศษ หรือช่วงดวลจุดโทษ
– ลิเวอร์พูลชนะจุดโทษ 4 จาก 5 ครั้งในเวทียุโรป (รวมถึงเฉือนเชลซี ปี 2007) แพ้หนเดียวต่อเบซิคตัส ในยูโรปา ลีก ปี 2015
– ลิเวอร์พูลไม่แพ้ทีมอังกฤษด้วยกันในเกมยุโรป 7 นัดหลังตั้งแต่เปิดบ้านแพ้เชลซี 1-3 ในรอบก่อนรองชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก เดือนเมษายน 2009