ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายจบลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่บุกชนะบาเยิร์น มิวนิค 3-1 กับ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า ที่ถล่มโอลิมปิก ลียง 5-1 เมื่อวันพุธที่ 13 มีนาคม ที่ผ่านมา คือสองทีมสุดท้ายที่ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศและนี่คือสถิติ-เกร็ดที่น่าสนใจของสองคู่เมื่อคืนนี้
บาเยิร์น มิวนิค 1-3 ลิเวอร์พูล
- นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่ฤดูกาล 2008-09 ที่มีทีมจากอังกฤษเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศของศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ถึง 4 ทีม อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้วซีซั่นนั้นทีมที่ได้แชมป์ไปครองคือ บาร์เซโลน่า ที่เอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในรอบชิงชนะเลิศ และตอนนี้ทั้งสองทีมดังกล่าวก็ยังอยู่ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายของซีซั่นนี้อยู่
- ถ้านับตั้งแต่ตอนเริ่มฤดูกาลก่อนเป็นต้นมา ก็ไม่มีใครที่ทำแอสซิสต์ในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้เยอะกว่า เจมส์ มิลเนอร์ อีกแล้ว หลังจากที่ มิลเนอร์ ทำไป 10 แอสซิสต์ในช่วงเวลาดังกล่าว
- ซาดิโอ มาเน่ ทำประตูในรอบน็อกเอาต์ในศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก ไปแล้ว 9 ลูก คิดเป็น 69% จากจำนวนประตูทั้งหมดที่เขาทำได้ (ยอดประตูรวมในทุกรอบของ มาเน่ อยู่ที่ 13 ลูก) โดยถ้าคิดเฉพาะเรื่องเปอร์เซ็นต์ เขาก็มีเปอร์เซ็นต์สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของชาร์ตนี้ แพ้แค่ อิวิก้า โอลิช เพียงคนเดียว โดยของ โอลิช อยู่ที่ 70 เปอร์เซ็นต์ หลังจากเขาทำประตูในรอบน็อกเอาต์ได้ 7 ลูก จากจำนวนประตูรวมในแชมเปี้ยนส์ ลีก 10 ประตู
- มาเน่ เป็นนักเตะที่ทำประตูในนัดเยือนของทั้งเกมระดับ ยูโรเปี้ยน คัพ และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ให้กับ ลิเวอร์พูล ได้มากที่สุดตลอดกาล ที่จำนวน 7 ลูก
- เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ เป็นนักเตะคนแรกของ ลิเวอร์พูล นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2007 ที่ทั้งสามารถทำประตูและแอสซิสต์ในเกมเยือนของรอบน็อกเอาต์นัดเดียวกันในศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ โดยคนสุดท้ายก่อนหน้าเขาที่ทำอย่างนั้นได้คือ เคร็ก เบลลามี่ ที่ทำได้ในเกมเยือน บาร์เซโลน่า
- โฌแอล มาติป เป็นนักเตะ ลิเวอร์พูล คนที่ 4 ที่ทำเข้าประตูตัวเองในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ต่อจาก ซามี่ ฮูเปีย, ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ และ มิลเนอร์
- ลิเวอร์พูล ชนะในเกมเยือนของ แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้เป็นครั้งแรกในฤดูกาลนี้ หลังจาก 3 นัดก่อนหน้านี้แพ้มาทั้งหมด
- ลิเวอร์พูล เสียประตูในเกมเยือนของ แชมเปี้ยนส์ ลีก 6 นัดติดต่อกัน
- บาเยิร์น ไปไม่ถึงรอบก่อนรองชนะเลิศของ แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 2010-11 โดยในซีซั่นนั้นพวกเขาก็ตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายเหมือนกัน จากฝีมือของ อินเตอร์ มิลาน
- มานูเอล นอยเออร์ กลายเป็นผู้รักษาประตูคนที่ 6 ที่ลงเล่นในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก แตะหลัก 100 นัด
บาร์เซโลน่า 5-1 ลียง
- บาร์เซโลน่า เข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศของศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้อย่างต่ำเป็นฤดูกาลที่ 12 ติดต่อกัน โดยหนสุดท้ายที่พวกเขาทำไม่ได้คือฤดูกาล 2006-07
- บาร์เซโลน่า ไม่แพ้ใครในบ้านในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก มา 30 นัดติดต่อกันแล้ว (แบ่งเป็นชนะ 27 เกม กับเสมอ 3 หน) โดยไม่มีทีมไหนอีกแล้วที่มีสถิติเกมเหย้าใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ยอดเยี่ยมเท่าพวกเขา
- จากการเจอ ลียง ในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่บ้านของตัวเอง 4 นัด บาร์เซโลน่า ก็เก็บชัยชนะได้ทั้งหมด และทำได้รวมแล้ว 15 ลูก พร้อมกับเสียเพียง 3 ประตู
- ลิโอเนล เมสซี่ ทำประตูในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่สนาม คัมป์ นู ได้ถึง 62 ลูก จากการลงเล่น 61 นัด
- นี่เป็นหนแรกที่ เมสซี่ ทำได้ทั้ง 2 ประตู และ 2 แอสซิสต์ ในการเล่นเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดเดียวกัน
- เมสซี่ ทำประตูรวมในทุกรายการให้ บาร์เซโลน่า มากถึง 35 ลูกขึ้นไป เป็นฤดูกาลที่ 11 ติดต่อกัน
- ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ทำประตูในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ทั้งหมด 7 ลูก จากการลงเล่น 12 นัดหลังสุด (นับรวมทั้งตอนเล่นให้ ลิเวอร์พูล และ บาร์เซโลน่า) ขณะที่ในช่วง 15 นัดแรกที่ลงเล่นเกมชิงถ้วย “บิ๊กเอียร์” เขาทำไม่ได้เลยแม้แต่ประตูเดียว
- อุสมาน เดมเบเล่ ลงเล่นเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ให้กับ บาร์เซโลน่า ที่สนาม คัมป์ นู มาแล้ว 4 นัด และทำประตูได้ทุกเกม
- ลียง เป็นทีมแรกของ ฝรั่งเศส ที่ทำประตูในเกม ยูโรเปี้ยนคัพ และ แชมเปี้ยนส์ ลีก ถึงหลัก 200 ลูก
