ยุคนี้ใคร ๆ ก็สนใจดาต้า เช่นเดียวกับ Rabbit Digital Group ที่เปิดตัวบริษัทน้องใหม่อย่าง “Alchemist” บริษัทคอนซัลติ้งที่เชี่ยวชาญในงานสายข้อมูล ภายใต้แนวคิดการทำงานที่เรียกว่า Data Activation ส่วนการเดินทางของ Alchemist จะไปในทิศทางไหน ลองไปฟังจากนายไชยณัฐ สัจจะปรเมษฐ Managing Director ของบริษัทกันเลย
“จากที่เราเคยทำงานมาร์เก็ตติ้งในฝั่ง Corporate มา เราพบว่ามีหลายครั้งเลยที่ Data จำนวนมหาศาลขององค์กรถูกจำกัดอยู่แค่การทำ Report ซึ่งน่าเสียดายมาก น้อยครั้งที่ Data จะถูกนำไปใช้ในแง่กลยุทธ์หรือการมองไปข้างหน้า ทำให้เรามองเห็นว่ายังมีโอกาสอีกมากในการทำงานด้าน Data
แนวคิด Data Activation คือการนำข้อมูลที่มีมาจัดระบบใหม่ และเอามาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดทางด้านการตลาด ซึ่งมีกระบวนการอยู่ 3 ขั้นตอน คือ หนึ่ง ‘Data In’ วางแผนกลยุทธ์ข้อมูล และนำข้อมูลมารวมกันให้เป็นระบบ เพื่อให้ง่ายต่อการนำไปใช้ สอง ‘Value Unlocked’ คือการนำข้อมูลมาวิเคราะห์ ใช้เทคโนโลยีปลดล็อกคุณค่าหรือ Insight ที่ซ่อนไว้ในข้อมูลเหล่านั้นออกมา และสุดท้ายคือ ‘Impact Out’ นำคุณค่าที่ได้ไปสร้างผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้ และสร้างประสบการณ์ให้กับผู้บริโภคผ่าน Digital Channel
ยกตัวอย่างเช่นในธุรกิจบริการหรือร้านอาหาร ซึ่งส่วนมากมีบัตรสมาชิกเกือบทุกแบรนด์ นอกจากบัตรจะทำหน้าที่เป็นส่วนลดเพื่อดึงดูดให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการแล้ว เรามองว่าบัตรสมาชิกคือช่องทางการเก็บข้อมูลจากลูกค้าที่ดีมาก แต่เมื่อเรามองในมุมของผู้บริโภคแล้ว เราพบว่าทุกวันนี้ข้อมูลนั้นยังไม่ได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ เช่น การทำโปรโมชั่นสำหรับเราโดยเฉพาะ หรือการวิเคราะห์อย่างละเอียดว่าพฤติกรรมของเราเป็นอย่างไร ซึ่ง Data Activation คือการนำข้อมูลสมาชิกเหล่านี้มาวิเคราะห์และนำมาสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้ลูกค้า
ทุกวันนี้ เทคโนโลยีต่าง ๆ สามารถเชื่อมต่อกันได้ง่ายขึ้นมากด้วย API หรือ Application Programming Interface พูดง่าย ๆ คือการให้แอปฯ หรือโปรแกรมสองอย่างคุยกัน หรือเชื่อมต่อกันหลังบ้านได้ แล้วแชร์ข้อมูลให้กันและกัน เช่น แอปฯ ธนาคารที่เวลามีเงินเข้าบัญชีก็มาเด้งบอกเราใน LINE นั่นก็เกิดจากการที่แอปฯ ธนาคารมีข้อมูลของเราชุดหนึ่ง LINE ก็มีข้อมูลของเราอีกชุดหนึ่ง เมื่อนำข้อมูลสองชุดนี้มาประกอบเข้าด้วยกันว่า นายคนที่ใช้บัญชีเลขนี้กับนายคนที่ใช้ LINE ID อันนี้คือคนเดียวกัน มันก็สร้าง Experience แบบเฉพาะตัวให้เราได้ ซึ่งเราสามารถทำสิ่งเดียวกันได้กับทุกธุรกิจไม่ใช่แค่ธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า โรงหนัง ความเป็นไปได้มันเยอะมาก เราเห็นโอกาสของ Data Activation ในแทบทุกอุตสาหกรรมเลย
Alchemist มองว่าการทำงานด้วยแนวคิด Data Activation ต้องมีการทำงานครบ 3 ด้าน คือด้านกลยุทธ์ทางการตลาด ด้านเทคโนโลยี และด้านครีเอทีฟ
เอเจนซี่ส่วนใหญ่มักจะเน้นด้านครีเอทีฟจ๋าไปเลย แต่เราต้องยอมรับว่าทุกวันนี้มาร์เก็ตติงไม่ใช่เรื่องของครีเอทีฟอย่างเดียวอีกต่อไปแล้ว เพราะ data หรือข้อมูลจะกลายเป็นสิ่งสำคัญของการทำงาน และการสร้างประสบการณ์ให้ผู้บริโภคมันมีเทคโนโลยีมาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น Device ใหม่ ๆ ที่เก่งขึ้นเรื่อย ๆ หรือ Digital Platform ต่าง ๆ ที่พัฒนา Feature ให้เชื่อมต่อกันได้ดีขึ้น ฉะนั้น เราต้องเข้าใจเทคโนโลยีด้วย เพื่อจะได้เข้าใจ Channel หรือ Platform ที่เราจะส่งให้ไปถึงผู้บริโภค
