ทยอยเปิดตัวศูนย์การค้า ในทำเลรอยต่อทั้งสี่มุมเมืองมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับกลุ่มแอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น ของตระกูลสิริวัฒนภักดี หลังทำพิธ๊เปิดศูนย์การค้าเกตเวย์บางซื่อไม่นาน ล่าสุดก็เริ่มการพัฒนาศูนย์การค้าใหม่บนพื้นที่รอยต่อชานเมือง ด้านตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงเทพฯ อย่างย่านบางพลี ซึ่งจะพัฒนาเป็นศูนย์การค้าใหม่ มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท
นายโสมพัฒน์ ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนางวัลลภา ไตรโสรัส กรรมการผู้จัดการใหญ่ (บุตรเขย และบุตรสาวของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี) กลุ่มแอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น พร้อมคณะผู้บริหาร ได้ร่วมพิธีลงเสาเอกโครงการ “ตะวันนาบางพลี” ศูนย์การค้าแห่งล่าสุดของกลุ่มฯ ย่านเทพารักษ์
โครงการนี้จะพัฒนาบนพื้นที่ 26 ไร่ ด้วยงบพัฒนาโครงการกว่า 1,000 ล้านบาท มีพื้นที่ปล่อยเช่ารวม 20,000 ตารางเมตร มีร้านค้าประมาณ 1,200 ร้านค้า เพื่อเติมเต็มความต้องการของกลุ่มลูกค้าวัยรุ่น, กลุ่มคนทำงาน และผู้อยู่อาศัยในย่านดังกล่าว ซึ่งถือเป็นย่านเศรษฐกิจหลักของ จังหวัดสมุทรปราการ
ศูนย์การค้าดังกล่าว ชูแนวคิด Affordable, Daily needs, Lifestyle เน้นราคาที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ชีวิตประจำวัน ด้วย 4 โซนหลัก ประกอบด้วย โซนที่ 1 Entertainment & Dining เป็นอาคาร 2 ชั้น เปิดให้บริการทั้งโรงภาพยนตร์ ร้านอาหารแฟรนไชส์ยอดนิยม สินค้าไอที Gadget ต่างๆ
รวมถึงร้านเครื่องสำอาง ร้านขายยา และร้านเสริมสวย ไว้อย่างครบครันตอบโจทย์ทุกคนในครอบครัว โซนที่ 2 Family Goods ที่มี Supermarket, Electronics Store พร้อมสร้างความเพลิดเพลินในการจับจ่ายใช้สอยสินค้าและบริการต่างๆ เกี่ยวกับของในครัวเรือน ของตกแต่งบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องใช้ในบ้าน
โซนที่ 3 Everyday Lifestyle ศูนย์รวมแหล่งร้านอาหารมากมายที่สะดวกทั้งทานที่ร้านและนำกลับบ้าน ร้านค้าแฟชั่นเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เครื่องประดับต่างๆ รวมกว่า 300 ร้านในตัวอาคาร เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่ชอบความหลากหลายไม่จำเจ และโซนที่ 4 Enjoyable & Indy Market ลานกิจกรรมพื้นที่ 1,000 ตารางเมตร ที่หมุนเวียนร้านค้าและกิจกรรมมาให้ลูกค้า ได้สนุกและสรรหาความแปลกใหม่ให้กับชีวิต
ทั้งนี้ โครงการฯ ได้จัดพื้นที่สำหรับ Food Truck ร้านค้า ร้านอาหารอีก 500 ร้านในลานด้านนอกอาคาร รวมถึงบริการต่างๆ ที่สามารถตอบโจทย์ชีวิตประจำวัน และไลฟ์สไตล์ของผู้คนในชุมชนได้เป็นอย่างดี คาดเปิดโซนแรก Indy Market ได้ราวกลางปี 2562 และจะพร้อมเปิดตัวโครงการอย่างเป็นทางการ ภายในไตรมาส 4 ปี 2562
