PR News

เปิดผลสำรวจพบ “อาหารญี่ปุ่น” ครองแชมป์อาหารยอดนิยม

food tracker
แกรนท์ บาร์โทลี่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารมาร์เก็ตบัซซ, มาร์เติน คัลเลนเบิร์ก และจิม ฟราลิค ผู้ร่วมก่อตั้ง ฟู้ด แทร็คเกอร์

ฟู้ด แทร็คเกอร์ ชูผลวิจัยเชิงลึกใครเป็นผู้นำร้านอาหารยอดฮิตในตลาดไทยตัวจริง โดยอ้างอิงจากผลสำรวจประจำเดือนของ ฟู้ด แทร็คเกอร์ พบว่าในช่วงเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมา มีจำนวนผู้บริโภคที่นิยมรับประทานอาหารญี่ปุ่นเป็นประจำ สูงถึง 60% จากผู้บริโภคที่ทำการสำรวจ จำนวน 3,000 คน ซึ่งเป็นจำนวนที่ใกล้เคียงกับผู้บริโภคที่นิยมรับประทานไก่ทอด และได้รับความนิยมสูงกว่าพิซซ่าและแฮมเบอร์เกอร์อีกด้วย

จิม ฟราลิค หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง ฟู้ด แทร็คเกอร์ ซึ่งอยู่ในแวดวงร้านอาหารในตลาดไทยมากกว่า 10 ปี กล่าวว่า “ร้านอาหารจานด่วนและร้านอาหารทั่วไปในไทยมีความเติบโตเป็นอย่างมาก ผู้บริโภคคนไทยชื่นชอบการทานอาหารญี่ปุ่นมากขึ้น ในขณะเดียวกันร้านอาหารญี่ปุ่นก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความนิยมอาหารญี่ปุ่นของคนไทยจึงเพิ่มมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา”

โดยฟู้ด แทร็คเกอร์ ได้ทำการวิจัยทางการตลาดในกลุ่มคนจำนวนมากทุกๆ เดือน โดยการใช้แพลตฟอร์มบนมือถือของมาร์เก็ตบัซซ และสามารถจัดหาข้อมูลรายงานผลวิจัยที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าที่ทำกิจการค้าปลีกได้
มาร์เติน คัลเลนเบิร์ก ผู้ร่วมก่อตั้ง ฟู้ด แทร็คเกอร์ กล่าวว่า “ทุกๆ เดือน เราจะทำแบบสอบถามบนมือถือเพื่อถามผู้บริโภค 3,000 คน เกี่ยวกับการใช้บริการและความรู้สึกที่มีต่อแบรนด์ที่ให้บริการร้านอาหารจานด่วนและร้านอาหารทั่วไป จำนวน 65 แบรนด์ และด้วยข้อมูลที่เราเก็บรวบรวมมาทั้งหมดนั้น เราสามารถที่จะทำรายงานที่เฉพาะเจาะจงเพื่อให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าของเราได้”

ด้านแกรนท์ บาร์โทลี่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารมาร์เก็ตบัซซ กล่าวว่า “สัดส่วนของผู้ใช้มือถือในประเทศไทยมีมากกว่า 60% และส่วนใหญ่จะอยู่ในเขตชุมชนเมือง เราสามารถทำการวิจัยบนมือถือได้อย่างง่ายดาย เพราะแพลตฟอร์มมือถือช่วยให้เราเชื่อมต่อกับผู้บริโภคมากกว่า 12 ล้านคน และเมื่อผู้บริโภคตอบแบบสอบถามครบถ้วน พวกเขาจะสะสมคะแนนหรือรางวัล แพลตฟอร์มบนมือถือของมาร์เก็ตบัซซช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการทำวิจัยเกี่ยวกับผู้บริโภค ทั้งยังมีความแม่นยำและมีประสิทธิภาพสูงอีกด้วย”

ปัจุจบัน ฟู้ด แทร็คเกอร์ ได้มุ่งความสนใจไปที่อุตสาหกรรมอาหารจานด่วนและร้านอาหารทั่วไปในไทย และยังมีแผนที่จะนำเสนอบริการอื่นๆ ในอุตสาหกรรมนี้อีกด้วย มร. คัลเลนเบิร์ก ยังกล่าวต่ออีกว่า “เรารู้ว่าหลายๆ บริษัทไม่สามารถรองรับการทำวิจัยได้ด้วยตัวเอง และผลวิจัยที่ได้นั้นก็เป็นเรื่องทั่วไปหรือเป็นเพียงข้อมูลการตลาดทั่วไป ในขณะที่เราได้มีการทำวิจัยเดือนละครั้งและให้รายงานได้แบบเฉพาะเจาะจง มุ่งความสำคัญไปยังสิ่งที่ลูกค้าต้องการรู้จริงๆ เราสามารถจัดหาข้อมูลในเชิงลึกที่ดีกว่าให้กับลูกค้าในราคาที่สมเหตุสมผล รวมถึงส่งมอบรายงานได้เร็วกว่าบริษัทอื่นๆ นี่ถือเป็นงานวิจัยที่มีประสิทธิภาพ โดยกลุ่มลูกค้าของเราในขณะนี้ เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมร้านอาหารชั้นนำ ซึ่งเรายังมีแผนที่จะขยายบริการไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น โรงแรม, ธนาคาร, และสินค้าอุปโภคบริโภค อีกด้วย”

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight