แคสเปอร์สกี้ เผยผลสำรวจ ต้อนรับวันวาเลนไทน์ ผู้ใช้โซเชียลอาเซียน 45% เสียเงินเพราะกลโกงรักออนไลน์ แนะวิธีรักษาทั้งหัวใจและเงินให้ปลอดภัย
การหลอกลวงเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ เพิ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2563 ช่วงมีการระบาดใหญ่ของโควิดครั้งแรกในโลก ด้วยการเคลื่อนไหวทางกายภาพที่จำกัด อินเทอร์เน็ตโดยเฉพาะแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ได้ให้การเชื่อมต่อที่สำคัญสำหรับผู้คน
การวิจัยของ แคสเปอร์สกี้ พบว่า ผู้ใช้โซเชียลมีเดียจำนวนมากกว่าครึ่ง (53%) ทั่วโลกใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ในช่วงล็อกดาวน์ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศมากกว่าเมื่อก่อน
ขณะที่ผู้ตอบแบบสอบถามจาก ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เกือบหนึ่งในสี่ (24%) กล่าวว่า ตนได้สร้างมิตรภาพแบบตัวต่อตัวในชีวิตจริงกับผู้คนที่พบกันครั้งแรกบนโซเชียลมีเดีย ผู้ตอบแบบสอบถามอีก 18% ยอมรับว่าเดทกับคนที่พบบนแพลตฟอร์มโซเชียลเหล่านี้
อย่างไรก็ตาม การหาคู่ที่เติบโตเช่นนี้ยังมาพร้อมกับความเสี่ยงด้านอารมณ์และการเงินอีกด้วย
ตัวอย่างเช่น ในปี 2564 หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายจากสิงคโปร์และมาเลเซีย ร่วมมือกันติดตามกลุ่มที่เชี่ยวชาญเรื่องกลโกงเรื่องความรัก อยู่เบื้องหลังการหลอกลวงอย่างน้อยแปดครั้งในทั้งสองประเทศ รวมถึงกรณีของสตรีชาวสิงคโปร์วัย 41 ปี ซึ่งจบลงด้วยการสูญเสียเงินรวม 28,000 ดอลลาร์
การวิจัยของแคสเปอร์สกี้อีกหนึ่งเรื่องชื่อ Mapping a secure path for the future of digital payments in APAC เปิดเผยว่า ผู้ตอบแบบสอบถามจำนวนเกือบหนึ่งในสอง (45%) ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สูญเสียเงินเนื่องจากการถูกหลอกลวงเรื่องความรักทางออนไลน์
เหตุการณ์ส่วนใหญ่ (22%) มีค่าเสียหายน้อยกว่า 100 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าอายุของเหยื่อและค่าเสียหายที่เป็นไปได้ของการหลอกลวงเรื่องรัก ดูเหมือนจะทับซ้อนกัน
สำหรับความเสียหายน้อยกว่า 100 ดอลลาร์ กลุ่มคนอาวุโสสูงที่สุดสองรุ่น (Baby Boomer และ Silent Generation) มีสัดส่วนเสียหายเปอร์เซ็นต์สูงสุดทั้งคู่ที่ 33%
กลุ่มอายุที่อาวุโสที่สุด สูญเสียมากที่สุด โดยจำนวนเกือบสองในห้าคน ยอมรับว่าสูญเสีย 5,000-10,000 ดอลลาร์ จากการหลอกลวงเรื่องความรักทางออนไลน์
และสุดท้าย กลุ่มคน Gen Z ส่วนน้อย (8%) ระบุว่าสูญเงินมากกว่า 10,000 ดอลลาร์ จากภัยคุกคามที่เกี่ยวข้องกับความรัก
วาเลนไทน์ต้องระวัง เปิดสัญญาณเตือนการหลอกลวงหาคู่ออนไลน์
- การแสดงอารมณ์รุนแรงในเวลาอันสั้น
- เปลี่ยนจากไซต์หรือแอปหาคู่ไปยังช่องทางส่วนตัวอย่างรวดเร็ว
- นักต้มตุ๋นถามคำถามมากมายเกี่ยวกับตัวคุณ เพราะยิ่งรู้จักคุณมากเท่าไหร่ คุณก็จะจัดการได้ง่ายขึ้นเท่านั้น
- เรื่องราวไม่สอดคล้องกัน บางครั้งนักต้มตุ๋นทำงานเป็นทีม โดยต่างคนต่างซ่อนตัวอยู่หลังตัวตนเดียวกัน ดังนั้น หากบุคคลที่คุณกำลังพูดด้วยดูไม่สอดคล้องกัน ให้สงสัยไว้ก่อน
- นักต้มตุ๋นไม่มีรอยเท้าดิจิทัล แม้ว่าบางคนจะไม่ใช้โซเชียลมีเดีย และพยายามลดปริมาณข้อมูลส่วนบุคคลบนอินเทอร์เน็ต แต่ก็อาจน่าสงสัยหากไม่พบร่องรอยของบุคคลใดๆ เลยในโลกออนไลน์
- ไม่มีการคุยผ่านวิดีโอหรือพบเจอแบบเห็นหน้ากัน มักแก้ตัวอยู่เสมอเพื่อหลีกเลี่ยงการไปหน้ากล้อง ฃ
- เหตุผลที่ชัดเจนคือหน้าตาของนักต้มตุ๋นไม่เหมือนกับรูปโปรไฟล์ อีกทั้งยังต้องการหลีกเลี่ยงการถูกระบุตัว เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกติดตามได้ในภายหลัง
- มีการขอเงินจากความทุกข์ยากส่วนตัว ตัวอย่างเช่น มีญาติที่ป่วยหรือธุรกิจที่ล้มเหลว
วิธีหลีกเลี่ยงการหลอกลวงหาคู่ออนไลน์
การหลีกเลี่ยงการหลอกลวงเรื่องรัก หมายถึง การพิจารณาความสัมพันธ์ออนไลน์ที่พัฒนาเร็วเกินไปอย่างรอบคอบ วิธีเพิ่มเติมในการรักษาหัวใจและกระเป๋าเงินของคุณให้ปลอดภัยมีดังนี้
- เมื่อใช้เว็บไซต์โซเชียลมีเดีย อย่ายอมรับคำขอเป็นเพื่อนจากคนที่คุณไม่รู้จัก
- หลีกเลี่ยงการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมากเกินไปในโปรไฟล์การออกเดท หรือกับคนที่คุณแชทด้วยทางออนไลน์
- ทำสิ่งต่างๆ ช้าๆ ถามคำถาม และระวังความไม่สอดคล้องกันที่อาจเปิดโปงผู้แอบอ้างได้
- ใช้เว็บไซต์หาคู่ที่มีชื่อเสียง และติดต่อสื่อสารผ่านบริการส่งข้อความของเว็บไซต์นั้น ผู้ฉ้อโกงต้องการให้คุณเปลี่ยนไปใช้ข้อความโซเชียลมีเดียอื่นหรือใช้โทรศัพท์อย่างรวดเร็ว เพื่อไม่มีหลักฐานว่าได้ขอเงินจากคุณผ่านเว็บไซต์หาคู่
- อย่าให้เงินใคร เว้นแต่คุณรู้จักและมีความสัมพันธ์แบบออฟไลน์
- หากคุณไปเดท อย่าลืมบอกคนในชีวิตจริงของคุณรู้ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนเพื่อความปลอดภัย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- วาเลนไทน์หวาน สานฝันชีวิตครอบครัวด้วย ‘บัญชีคู่’ เปิดแบบไหนให้รักมั่นคง
- แจกยาคุมฟรี วันวาเลนไทน์ สปสช.เปิดรับได้ 2 ช่องทางต่อไปนี้
- 3 ภัยอันตราย ‘หลอกรักออนไลน์’ ช่วง ‘วาเลนไทน์’ รักมาก เปย์มาก สุดท้ายสูญเงิน