Social

ชงเรื่อง ‘กัญชา’ เข้าครม. พรุ่งนี้ เปิดทางประชาชน ‘ปลูก’ ได้

“อนุทิน” เตรียมนำเรื่องแก้ไข พ.ร.บ. ยาเสพติด  เปิดทางให้ประชาชน “กัญชา” เพื่อใช้รักษาอาการป่วย และนำออกจำหน่ายได้

นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหาร และยา เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาล โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งรวมถึง นโยบายเร่งด่วนข้อ 4  ที่ให้ความสำคัญในการต่อยอดภูมิปัญญา และความรู้ของปราชญ์ชาวบ้าน เพื่อสร้าง นวัตกรรม ผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูป รวมถึง ศึกษา วิจัยการใช้กัญชาทางการแพทย์ เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจนั้น

haa

ภายใต้กฎหมายปัจจุบัน ผู้ป่วยที่ต้องการรักษาโรคด้วยกัญชา ยังไม่สามารถเข้าถึงการรักษาได้อย่างทั่วถึง อีกทั้งแพทย์แผนไทย หมอพื้นบ้าน ยังไม่สามารถปลูกกัญชาเพื่อใช้รักษาผู้ป่วยของตน ส่งผลให้การรักษาด้วยภูมิปัญญาไทย ไม่ได้รับการต่อยอดและพัฒนาเท่าที่ควร เป็นข้อจำกัดต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมยาไทยสู่ระดับโลก

“ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุข โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จะเสนอร่างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่…) พ.ศ … เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ในวันอังคารที่ 4 สิงหาคม 2563 เพื่อผลักดันการใช้พืชกัญชาทางการแพทย์ ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล”

ร่างกฎหมายดังกล่าว ได้ผ่านการรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน และได้รับความเห็นชอบจาก คณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษแล้ว ซึ่งประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ เช่น สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานอัยการสูงสุด สํานักงานตํารวจแห่งชาติ สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดให้โทษ (ป.ป.ส.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แพทยสภา สภาการแพทย์แผนไทย สภาเภสัชกรรม กรมการแพทย์ กรมการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือก เป็นต้น

สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว มุ่งเน้นหลักการสำคัญ 3 ประการคือ

1. เพิ่มการเข้าถึงการรักษาให้ผู้ป่วย ได้รับการรับรอง จากผู้ประกอบวิชาชีพสามารถขออนุญาตปลูก และใช้กัญชา เพื่อรักษาโรคของตนเองได้

2. ต่อยอดภูมิปัญญาการแพทย์ในท้องถิ่นให้แพทย์แผนไทย หมอพื้นบ้าน สามารถขออนุญาตปลูกกัญชาเพื่อใช้ในการปรุงยาเพื่อให้ผู้ป่วยของตนได้

3. ส่งเสริมอุตสาหกรรมยาของประเทศ ให้เกษตรกรสามารถขออนุญาตปลูกกัญชา ภายใต้ความร่วมมือกับผู้ผลิตยา หรือผลิตภัณฑ์สมุนไพรอีกครั้งผู้ผลิตยา และผลิตภัณฑ์สมุนไพร สามารถผลิตยากัญชา และส่งออกได้ เพิ่มขีดความสามารถ ในการแข่งขันในทั้งใน และต่างประเทศ ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ และความมั่นคงทางยาของประเทศ

ไม่ต้องนำเข้ายากัญชาจากต่างประเทศ และประหยัดงบประมาณ ในการนำยาโดยใช้ยากัญชาทดแทน หรือใช้ร่วมกับ ยาแผนปัจจุบันได้ ซึ่งจะเป็นอีกก้าวสำคัญที่ประเทศไทย จะก้าวสู่ผู้นำการใช้กัญชาทางการแพทย์อย่างเป็นระบบ เกิดการพัฒนาองค์ความรู้ ต่อยอดภูมิปัญญาไทย บรรลุตามนโยบายของรัฐบาล ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนไทย และประเทศชาติอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo