Social

‘ศรีสุวรรณ’ ขย้ำไม่หยุด! จี้ ‘สรรพากร’ เช็คบัญชีรายได้บริษัท ‘ฌอน บูรณะหิรัญ’

“ศรีสุวรรณ” โดดเล่นต่อเนื่อง จี้ “กรมสรรพากร” สอบบัญชีรายได้ บริษัท “ฌอน บูรณะหิรัญ” หวั่นแอบนำเงินบริจาคไปลดภาษีหรือใช้ส่วนตัว

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า จากกรณีที่สังคมออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์ นายฌอน บูรณะหิรัญ นักสร้างแรงบันดาลใจอย่างหนัก กรณีที่นายฌอนขอรับเงินบริจาคกว่า 8 แสนบาท แต่ปรากฎว่ามีการนำไปใช้บริจาคช่วยโควิด-19 ไม่ช่วยไฟป่าตามวัตถุประสงค์ขอรับเงินบริจาค และยังนำเงินไปผลิตสื่อเพื่อประโยชน์ส่วนตนกว่า 2.5 แสนบาท อีกทั้งยังไม่มีการเปิดเผยยอดบัญชีรายรับเงินบริจาคนั้น

มีการตั้งข้อสังเกตของประชาชนทั่วไปว่า เอกสารหลักฐานที่ฌอนนำออกมาชี้แจงนั้น ส่วนใหญ่เน้นที่การจัดทำสื่อสร้างภาพลักษณ์ให้ตนเอง และการซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อนำไปช่วยโควิด-19 โดยช่วยโรงพยาบาลต่างๆ หลายจังหวัด ไปจนถึง อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส มิได้เป็นการนำเงินบริจาคไปเพื่อวัตถุประสงค์ของการช่วยดับไฟป่าที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นการเฉพาะตามที่แจ้งในเพจส่วนตัวตอนขอรับบริจาคแต่อย่างใด การกระทำดังกล่าวจึงไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการรับบริจาค อาจเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ตาม ปอ.มาตรา 341

ศรีสุวรรณ ฌอน บูรณะหิรัญ

จี้ตรวจสอบ บริษัท ฌอน บูรณะหิรัญ

นอกจากนั้น รายการค่าใช้จ่ายตามหลักฐานใบเสร็จที่นำมาแสดง ปรากฏว่าบางบิลเป็นชื่อ บริษัท ด๊อท ลีดเดอร์ส จำกัด ที่เป็นบริษัทรับจัดการฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากรของนายฌอน ซึ่งอาจจะเป็นการนำไปแอบอ้างการเคลมภาษีเพื่อขอยกเว้นภาษีหรือลดประจำปีของบริษัทดังกล่าวได้ ซึ่งหากทำเช่นนั้นจริงย่อมมีความผิดฐานแจ้งความเท็จตาม ปอ.มาตรา 172 ประกอบ พรบ.ประมวลรัษฎากร 2481 ได้

ทั้งนี้ ผู้ที่จะต้องตรวจสอบการใช้จ่ายเงินบริจาคดังกล่าว ว่ามีการรับ-การจ่ายเงินเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการรับบริจาคทุกบาท ทุกสตางค์หรือไม่นั้น คือ กรมสรรพากร ซึ่งจะสามารถชี้ให้เห็นว่า

  • เงินบริจาคทั้งหมดมีแค่ 8 แสนกว่าบาทจริง หรือมีมากกว่านั้น
  • มีการนำเงินบริจาคไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัว และ/หรือ ใช้ในนาม บริษัท ด๊อท ลีดเดอร์ส จำกัด แล้วนำมาแอบอ้างเป็นการบริจาคส่วนตัวหรือบริจาคโดยบริษัท มิได้กล่าวถึงการรับบริจาคมาหรือไม่ อย่างไร

ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงได้ทำคำร้องเป็นหนังสือส่งไปยังอธิบดีกรมสรรพากร เพื่อขอให้ใช้อำนาจตามกฎหมาย ในการตรวจสอบการยื่นแบบรายได้ประจำปีของ ฌอน บูรณะหิรัญ และบริษัท ด๊อท ลีดเดอร์ส จำกัดว่า มีการแสดงแบบรายได้-รายจ่ายเป็นไปตามข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง หรือมีการแอบอ้างการใช้จ่ายเพื่อประโยชน์ส่วนตัว ที่ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการรับบริจาคดังกล่าวหรือไม่ต่อไป

ฌอน บูรณะหิรัญ

สรรพากร-ตำรวจ ออกโรงแล้ว

ทั้งนี้ เมื่อวาน (28 มิ.ย. 63) นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวถึงปมเงินบริจาคดับไฟป่าของนายฌอน บูรณะหิรัญว่า ตามหลักการแล้ว เงินที่ได้รับการบริจาคมา จะต้องมีการทำบันทึกรายรับรายจ่าย โดยจะต้องนำไปใช้บริจาคตามวัตถุประสงค์ทั้งหมด จึงจะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ เช่นเดียวกับ กรณีนายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ที่เปิดบัญชีรับบริจาคอุทกภัยที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม กรมฯ คงไม่ได้เข้าไปตรวจสอบบัญชีรายรับของนาย ฌอน ทันที เพราะเป็นหน้าที่ของผู้เสียภาษีต้องยื่นแบบรายได้ประจำปีให้กรมฯ ทราบ ทั้งรายได้ส่วนตัวและเงินบริจาคทั้งหมด ต้องชี้แจงได้ว่า มีที่มารายได้และนำไปใช้อย่างไร ซึ่งกรมฯ มีอำนาจสามารถตรวจสอบจำนวนเงินที่เข้าบัญชีได้ทั้งหมด

ส่วนกรณีที่มีการนำเงินบริจาคส่วนหนึ่งมาใช้ผลิตสื่อ 2.5 แสนบาทนั้น กรมฯ ต้องขอไปตรวจสอบก่อนว่า จะเข้าข่ายได้รับการยกเว้นภาษีด้วยหรือไม่ เพราะไม่ใช่เป็นการนำเงินไปบริจาคต่อ

“รายได้ที่เข้าบัญชี กรมสามารถตรวจสอบได้ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นรายจ่ายส่วนตัวหรือเงินบริจาคทุกบาท ในหลักการถ้าเป็นเงินบริจาคเข้ามา ก็ต้องนำไปบริจาคทั้งหมด” นายเอกนิติกล่าว

เงินบริจาค ฌอน บูรณะหิรัญ

ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เปิดเผยว่า การกระทำในลักษณะดังกล่าว หากจะเป็นความผิดที่เกี่ยวกับเรื่องการฉ้อโกง ก็จะต้องเป็นการกระทำโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริง ซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม

เบื้องต้น ยังไม่ได้รับรายงานว่า มีประชาชนหรือผู้ที่ได้รับความเสียหายมาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เกี่ยวกับการเปิดรับบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือเกี่ยวกับเรื่องไฟป่าแต่อย่างใด

แต่หากมีประชาชน หรือมีผู้ที่รับความเสียหายจากการเปิดรับบริจาคดังกล่าว ก็สามารถมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อร้องทุกข์ให้ดำเนินตามขั้นตอนของกฎหมายได้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พร้อมที่จะทำการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเกี่ยวข้องตามขั้นตอนต่อไป โดยจะดำเนินการด้วยความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ฌอน บูรณะหิรัญ

ต้นตอดราม่า ฌอน บูรณะหิรัญ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ฌอน บูรณะหิรัญ พิธีกรและนักสร้างแรงบันดาลใจชื่อดัง ได้โพสต์คลิปผ่านเฟซบุ๊ก “Sean Buranahiran – ฌอน บูรณะหิรัญ” โดยเป็นคลิปที่เขาไปร่วมกิจกรรมปลูกป่า ปลูกต้นไม้ ร่วมลดปัญหาโลกร้อนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี

โดย ฌอน ได้พูดถึง พล.อ.ประวิตร ว่า “เมื่อกี้ได้เจอท่านประวิตร มันไม่เหมือนที่เราเห็นในรูปภาพที่อยู่ในมีม ที่เขาหลับและภาพที่ออกมาดูร้ายหน่อย แต่พอได้เห็นตัวจริง เหมือนผู้ใหญ่ที่น่ารัก มันทำให้ผมนึกออกว่า สิ่งที่เราเห็นในสื่อ เขามีเจตนาที่จะทำให้เราคิดอะไรบางอย่าง อย่าเพิ่งตัดสินใคร จนกว่าเราจะได้เจอเขาจริง ๆ ได้คุยกับเขาและสัมผัสกับเขา”

หลังมีการเผยแพร่คลิปดังกล่าวออกไป นักสร้างแรงบันดาลใจชื่อดัง ก็เจอกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยส่วนใหญ่เข้าไปทักท้วงถึงพฤติกรรมของ พล.อ.ประวิตร ซึ่งไม่ค่อยดีนัก โดยเฉพาะเรื่อง “นาฬิกาหรู”

จากนั้นเพจเฟซบุ๊ก แหม่มโพธิ์ดำ ได้เปิดข้อความจากทีมอาสาดับไฟป่า ที่ฝากถึง ฌอน บูรณะหิรัญ เพื่อตั้งคำถามเกี่ยวกับการเปิดขอรับเงินบริจาคดับไฟป่า จังหวัดเชียงใหม่ ผ่านเพจเฟซบุ๊กของ ฌอน เมื่อต้นปีที่ผ่านมา

โดยต่อมา ฌอน บูรณะหิรัญ ก็ได้โพสต์ชี้แจงเงินบริจาคที่ได้รับรวม 875,741.53 บาทว่า ในจำนวนนี้ 254,516.53 บาท เป็นการใช้เงินเพื่อสร้างสื่อเผยแพร่ปัญหา ความรู้ และแนวทางแก้ไข ผ่านช่องทางเฟสบุ๊ก อินสตาแกรม และยูทูปของตัวเอง ซึ่งคำตอบดังกล่าวทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมเป็นวงกว้างตามมาอีก

 อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo