ผู้ที่มีธุระเกี่ยวกับ พาสปอร์ต หรือหนังสือเดินทาง ไม่ต้องกังวล เพราะล่าสุด กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ แจ้งว่าตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน 2563 เป็นต้นไป สำนักงานหนังสือเดินทางทุกแห่งทั่วประเทศจะกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง โดยแต่ละแห่งจะมีตารางเปิดปิดที่แตกต่างกัน เช็คได้เลย!
สำนักงานหนังสือเดินทางในกรุงเทพฯ 5 แห่ง
- กรมการกงสุล แจ้งวัฒนะ เปิดให้บริการวันจันทร์-วันศุกร์
- รถไฟฟ้า MRT สถานีคลองเตย เปิดให้บริการทุกวันจันทร์/พุธ/ศุกร์
- มีนบุรี เปิดให้บริการทุกวันจันทร์/พุธ/ศุกร์
- ศรีนครินทร์ เปิดให้บริการทุกวันจันทร์/พุธ/ศุกร์
- ปิ่นเกล้า เปิดให้บริการทุกวันจันทร์/พุธ/ศุกร์
สำนักงาน พาสปอร์ต ในภูมิภาค 14 แห่ง
- จังหวัดขอนแก่น เปิดให้บริการวันจันทร์-วันศุกร์
- จังหวัดเชียงใหม่ เปิดให้บริการทุกวันจันทร์/พุธ/ศุกร์
- จังหวัดนครราชสีมา เปิดให้บริการทุกวันจันทร์/พุธ/ศุกร์
- จังหวัดสงขลา เปิดให้บริการทุกวันจันทร์/พุธ/ศุกร์
- จังหวัดยะลา เปิดให้บริการทุกวันจันทร์/พุธ/ศุกร์
- จังหวัดอุบลราชธานี เปิดให้บริการทุกวันจันทร์/พุธ/ศุกร์
- เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี เปิดให้บริการทุกวันจันทร์/พุธ/ศุกร์
- จังหวัดเชียงราย เปิดให้บริการทุกวันพุธ
- จังหวัดนครสวรรค์ เปิดให้บริการทุกวันพุธ
- จังหวัดจันทบุรี เปิดให้บริการทุกวันพุธ
- จังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดให้บริการทุกวันพุธ
- จังหวัดภูเก็ต เปิดให้บริการทุกวันพุธ
- จังหวัดพิษณุโลก เปิดให้บริการทุกวันพุธ
- จังหวัดอุดรธานี เปิดให้บริการทุกวันพุธและวันศุกร์
ตารางเปิดบริการรับรองเอกสาร
นอกจากนี้ กรมการกงศุลยังแจ้งว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา ได้ปรับตารางการเปิด/ปิด บริการรับรองเอกสารของสำนักงานสัญชาติและนิติกรณ์ทั่วประเทศ ดังนี้
- กรมการกงศุล แจ้งวัฒนะ เปิดให้บริการวันจันทร์-วันศุกร์
- รถไฟฟ้า MRT สถานีคลองเตย เปิดให้บริการวันจันทร์-วันศุกร์
- จังหวัดเชียงใหม่ เปิดให้บริการทุกวันจันทร์/พุธ/ศุกร์
- จังหวัดสงขลา เปิดให้บริการทุกวันจันทร์/พุธ/ศุกร์
- จังหวัดอุบลราชธานีเปิดให้บริการทุกวันจันทร์/พุธ/ศุกร์
พาสปอร์ต สำหรับบุคคลทั่วไป
พาสปอร์ตสำหรับบุคคลทั่วไปจะแบ่งออกเป็น 4 ประเภท โดยผู้ขอต้องยื่นเอกสารและมีค่าธรรมเนียม ดังนี้
- พาสปอร์ตสำหรับบุคคลทั่วไป ที่มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป ต้องยื่นคำร้องพร้อมบัตรประจำตัวประชาชนและพาสปอร์ตเล่มเดิม (ถ้ามี) จากนั้นจะต้องเก็บข้อมูล ด้วยการวัดส่วนสูง สแกนลายนิ้วมือ ถ่ายรูป โดยค่าธรรมเนียมการทำพาสปอร์ตปกติอยู่ที่ 1,000 บาท, ด่วน 2,000 บาท และด่วนพิเศษ 3,000 บาท โดยมีค่าธรรมการจัดส่ง EMS 40 บาท และ PSP 60 บาท
- พาสปอร์ตสำหรับเยาวชน ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ต้องยื่นคำร้องพร้อมสูจิบัตรหรือบัตรประจำตัวประชาชนของผู้เยาว์, บัตรประจำตัวประชาชนของบิดาและมารดา โดยบิดาและมารดาต้องมาลงนามให้ความยินยอมต่อหน้าเจ้าหน้าที่ในวันที่รับคำร้อง จากนั้นเก็บข้อมูลด้วยการวัดส่วนสูง,สแกนลายนิ้วมือ และถ่ายรูป ค่าธรรมเนียมการทำพาสปอร์ตปกติอยู่ที่ 1,000 บาท, ด่วน 2,000 บาท และด่วนพิเศษ 3,000 บาท โดยมีค่าธรรมการจัดส่ง EMS 40 บาท และ PSP 60 บาท
- พาสปอร์ตสำหรับพระภิกษุ สามเณร ต้องยื่นคำร้องพร้อมเอกสาร ดังนี้ หนังสือสุทธิสำหรับพระภิกษุและสามเณร, หนังสือเดินทางเล่มเดิม (ถ้ามี), หนังสืออนุมัติจากสำนักงานพระพุทธศาสนา, ทะเบียนบ้านหรือวัดที่มีชื่ออยู่ ณ ปัจจุบัน, หนังสือแต่งตั้งสมณะศักดิ์, ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี), หนังสือรับรองความประพฤติพร้อมกับให้ความยินยอมจากเจ้าอาวาสและประทับตราของวัด จากนั้นเก็บข้อมูลด้วยการวัดส่วนสูง, สแกนลายนิ้วมือ และถ่ายรูป ค่าธรรมเนียมการทำพาสปอร์ตปกติอยู่ที่ 1,000 บาท, ด่วน 2,000 บาท และด่วนพิเศษ 3,000 บาท โดยมีค่าธรรมการจัดส่ง EMS 40 บาท และ PSP 60 บาท
- พาสปอร์ตสำหรับไปประกอบพิธีฮัจญ์ ต้องยื่นคำร้องพร้อมเอกสาร ดังนี้ หนังสือรับรองจากสำนักจุฬาราชมนตรี หรือคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด รับรองการไปประกอบพิธีฮัจญ์, บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรที่ใช้แทนได้ตามกฎกระทรวงมหาดไทย แต่ถ้าผู้ไปประกอบพิธีฮัจญ์เป็นผู้ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ให้ยึดระเบียบการทำหนังสือเดินทางของผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 15 ปี หรือผู้เยาว์ที่มีอายุระหว่าง 15-20 ปี แล้วแต่กรณี โดยหนังสือเดินทางมีอายุ 2 ปี ค่าธรรมเนียม 400 บาท
อ่านข่าวเพิ่มเติมคลิก
- ประกาศปิดสำนักงานหนังสือเดินทาง 3 แห่งชั่วคราวหนีโควิด!
- สถานทูตตอบคำถามคาใจ! เมื่อไหร่จะได้กลับไทย ‘วีซ่า’ จะหมดแล้ว
- เปิดภาพการ์ดงานแต่ง ‘ฟลุค-นาตาลี’ แนวพาสปอร์ตสุดเก๋ สมกับเป็นคู่รักที่ชอบเดินทาง
