“เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ” เสด็จแทนพระองค์ ในการพระราชทานธงคณะลูกเสือแห่งชาติ ธงลูกเสือกรุงเทพมหานคร และธงลูกเสือประจำจังหวัด และทรงเป็นประธานในพิธีทบทวนคำปฏิญาณและสวนสนาม เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนาคณะลูกเสือแห่งชาติ ประจำปี 2565 ณ ค่ายลูกเสือวชิราวุธ จังหวัดชลบุรี
วันนี้ (1 ก.ค.) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เสด็จแทนพระองค์ไปยังค่ายลูกเสือวชิราวุธ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมข้าราชการกระทรวงศึกษาธิการ เฝ้ารับเสด็จฯ
ในการนี้ ทรงวางพานพุ่ม และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และทรงพระดำเนินไปยังอาคารเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา ทรงวางพวงมาลัยถวายราชสักการะ พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงก่อตั้งกิจการลูกเสือไทยขึ้นเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2454
จากนั้น เสด็จไปยังพลับพลาพิธี ในการพระราชทานเหรียญลูกเสือสรรเสริญ ประจำปี 2563 จำนวน 3 ราย เหรียญลูกเสือสรรเสริญ ประจำปี 2564 จำนวน 3 ราย พระราชทานธงคณะลูกเสือแห่งชาติ แก่สำนักงานลูกเสือแห่งชาติ ผ่านนายกรัฐมนตรี ในฐานะอุปนายกสภาลูกเสือไทย
พระราชทานธงลูกเสือกรุงเทพมหานคร แก่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และพระราชทานธงลูกเสือประจำจังหวัด แก่ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้แทน จำนวน 76 จังหวัด นับเป็นครั้งแรกในสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ที่ได้มีการพระราชทานธงประจำจังหวัด แล้วทรงเป็นประธานในพิธีทบทวนคำปฏิญาณ และสวนสนาม เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนาคณะลูกเสือแห่งชาติ ประจำปี 2565
ในการนี้ พระราชทานพระโอวาทใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า
“น่าชื่นชมอย่างยิ่งที่ได้ทราบว่า คณะลูกเสือมีความมุ่งมั่นตั้งใจจริง ที่จะปฏิบัติงานให้บังเกิดผลตามอุดมการณ์ที่ตั้งไว้ นับแต่กิจการลูกเสือถือกำเนิดขึ้น เยาวชนลูกเสือผู้มีจิตอาสา ได้มีบทบาทอย่างสำคัญในการบำเพ็ญประโยชน์ในด้านต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น และสังคมส่วนรวมด้วยความเสียสละ ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และความปรารถนาดีอย่างสุจริตจริงใจเสมอมา”
“นับได้ว่ากิจการลูกเสือเป็นจุดเริ่มต้น และเป็นโอกาสในการสร้างสมคุณลักษณะประจำตน ให้เยาวชนเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ ผู้จะสามารถสร้างความเจริญมั่นคงให้แก่ชาติบ้านเมืองได้ต่อไป ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นที่ประจักษ์โดยทั่วกันว่า กิจการลูกเสือไทยสามารถยังประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ และประชาชนได้อย่างแท้จริง”
“อย่างไรก็ดี สังคมทุกวันนี้ มีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ลูกเสือจึงจำเป็นต้องปรับตัว และพัฒนาตนเอง ทั้งในด้านความรู้ความสามารถ ความคิดและวิจารณญาณ ตลอดจน ทักษะความเชี่ยวชาญต่าง ๆ ให้เพิ่มพูนก้าวหน้าทันโลก ทันเหตุการณ์อยู่เสมอ”
“เชื่อได้ว่า หากลูกเสือทุกคนมีความตั้งใจที่จะปฏิบัติให้ได้ดังนี้ รวมทั้ง ประพฤติตนอยู่ในระเบียบวินัย และธรรมเนียมของลูกเสืออย่างแน่วแน่แล้ว แต่ละคนย่อมสร้างสรรค์ความเจริญมั่นคงให้แก่ตน แก่สังคม และแก่ประเทศชาติได้ สมกับอุดมการณ์ของลูกเสืออย่างแน่นอน”
“ธงลูกเสือ อันเป็นเครื่องหมายแทนชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ซึ่งมอบไว้แก่ท่านในวันนี้ ขอให้ทุกท่านถือเอาเป็นเครื่องเตือนใจ ให้ยึดมั่นและตระหนักถึงบทบาทหน้าที่ของตนดังที่กล่าว คือเป็นผู้สร้างสรรค์และรักษาความวัฒนาผาสุกให้แก่ชาติบ้านเมืองของเราสืบไป”
ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฐานะทรงเป็นองค์พระประมุขของคณะลูกเสือแห่งชาติ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานหลักสูตร และตราสัญลักษณ์ลูกเสือจิตอาสาพระราชทานแก่คณะลูกเสือแห่งชาติ
สำนักงานลูกเสือแห่งชาติ ร่วมกับ สำนักงานลูกเสือจังหวัด 77 จังหวัด ได้ร่วมกันขับเคลื่อนการฝึกอบรมบุคลากรทางการลูกเสือ และการฝึกอบรมลูกเสือ โดยมีผู้บังคับบัญชาลูกเสือ และบุคลากรทางการลูกเสือผ่านการอบรมลูกเสือจิตอาสาพระราชทาน จำนวน 10,993 คน ลูกเสือจิตอาสาพระราชทาน จำนวน 180,000 คน มีสถานศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ 4,802 แห่ง ซึ่งมีโครงการลูกเสือจิตอาสาพระราชทาน ที่ออกบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมหลังจากอบรมแล้ว 14,400 โครงการทั่วประเทศ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา ทรงเปิดประชุมอาเซียนการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา
- เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ องค์ประธานประชุมประจำปี มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) สรุปแผนจัดงาน เพื่อนพึ่ง (ภาฯ) 2565
- ‘ในหลวง’ โปรดเกล้าฯ ให้ ‘เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ’ เป็นผู้แทนพระองค์ ทรงเจิมเทียนพรรษา