ศูนย์จีโนมฯ เผย ทั่วโลกกำลังจับตา ‘เดลตาครอน XBC’ ลูกผสม ‘เดลตา+โอไมครอน BA.2’ ระบาดในฟิลิปปินส์มากกว่า 193 ราย!
ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ.รามาธิบดี โพสต์เพจเฟซบุ๊ก Center for Medical Genomics ให้ระวัง “เดลตาครอน XBC” ลูกผสมระหว่าง “เดลตา” และ “โอไมครอน BA.2” พบระบาดในฟิลิปปินส์มากกว่า 193 ราย! กลายพันธุ์ไปมากกว่า XBB และ BQ.1
โจมตีปอดอย่าเดลตา แพร่เร็วเหมือนโอไมครอน
นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกจับตามอง ‘เดลตาครอน’ ซึ่งในช่วงการระบาดของโควิด 19 ปลายปีที่ 3 ซึ่งโอไมครอนกำลังอ่อนกำลังลงดูเหมือน ‘เดลตาครอน’ หลายสายพันธุ์จะระบาดขึ้นมาแทนที่ เช่น XBC, XAY, XBA และ XAW (ภาพ1) โดยเฉพาะเดลตาครอน “XBC” มีการกลายพันธุ์ต่างไปจากโควิด 19 สายพันธ์ดั้งเดิม “อู่ฮั่น” มากที่สุดถึงกว่า “130” ตำแหน่ง (ภาพ2)
จากรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมของ “เดลตาครอน” ประเมินว่า เป็นไวรัสโควิดที่มีศักยภาพในการโจมตีปอดอย่าง “เดลตา” และอาจแพร่ระบาดได้รวดเร็วเหมือน “โอไมครอน”
เมื่อต้นปี 2565 ที่ผ่านมา มีรายงานการตรวจพบ “เดลตาครอน” ในประเทศฟิลิปปินส์ระยะหนึ่ง จากนั้นก็สูญพันธุ์ไปไม่เกิดการระบาดรุนแรงขยายวง
แต่มาในช่วงปลายปี 2565 กลับพบ “เดลตาครอน” ในประเทศฟิลิปปินส์อีกครั้งในรูปแบบของโควิดสายพันธุ์ XBC, XBA, XAY และ XAW ระบาดขึ้นมาใหม่ (ภาพ3)
อันตรายถึงตายได้เหมือนตอนเดลตาระบาด
ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด(worst-case scenario) ลูกผสมเดลต้า-โอไมครอนอาจมีอันตรายถึงตายได้พอๆ กับสายพันธุ์เดลตา ซึ่งคร่าชีวิตผู้ที่ติดเชื้อไปประมาณ 3.4% ซึ่งสูงกว่าอัตราการเสียชีวิตของโอไมครอนเกือบสองเท่า ตามผลการศึกษาในปี 2565 ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nature Reviews Immunology นอกจากนี้ “เดลตาครอน”อาจมีความสามารถในการแพร่ติดต่อได้อย่างรวดเร็วเช่นเดียวกับโอมิครอน
แต่การประเมินหรือทำนายความรุนแรงของสายพันธุ์ลูกผสมเป็นเรื่องยาก เนื่องจากนักวิทยาศาสตร์ไม่แน่ใจว่า เหตุใดโอไมครอนจึงดูเหมือนจะก่อให้เกิดโรคโควิด 19 รุนแรงน้อยกว่า เมื่อเทียบกับเดลตา
ผุ้เชี่ยวชาญทั่วโลกยังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าทำไมโควิด 19 จึงเปลี่ยนจาก “โรคทางเดินหายใจส่วนล่าง” ในช่วง 2 ปีแรกที่เดลตาและสายพันธุ์ก่อนหน้าระบาดมาเป็น “โรคทางเดินหายใจส่วนบน” ที่มีความรุนแรงลดลงในปีที่ 3 การเปลี่ยนแปลงอาจเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงนอกเหนือไปจากโปรตีนหนาม ซึ่งไวรัสใช้ในการเกาะติดเซลล์ของมนุษย์และหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกัน
ทำไมประเทศไทยควรกังวล เดลตาครอน XBC
เพราะประเทศฟิลิปปินส์หนึ่งในอาเซียน อยู่ใกล้ประเทศไทย ขณะนี้ตรวจพบผู้ติดเชื้อโอไมครอน XBB จำนวนถึง 81 รายพร้อมไปกับพบลูกผสม XBC ใน 11 จังหวัด ถึง 193 ราย
นักวิทยาศาสตร์อาเซียนได้ช่วยกันถอดรหัสพันธุกรรมไวรัสโคโรนา 2019 และแชร์ไว้บนฐานข้อมูลรหัสพันธุกรรมโควิดโลก “กิสเสด (GISAID)”
พบลูกผสม XBB ใน
- สิงคโปร์ 1137 ราย 12.154%
- อินโดนีเซีย 90 ราย 0.623%
- บรูไน 77 ราย 4.254%
- มาเลเซีย 32 ราย 0.358%
- ฟิลิปปินส์ 20 ราย 0.490%
- กัมพูชา 1 ราย 0.197%
พบลูกผสม XBC ใน
- ฟิลิปปินส์ 35 ราย 0.857%
- บรูไน 15 ราย 0.829%
- สิงคโปร์ 1 ราย 0.011%
- มาเลเซีย 1 ราย 0.011%
จากฐานข้อมูลรหัสพันธุกรรมโควิดโลก “กิสเสด (GISAID)” ยังไม่พบสายพันธุ์ลูกผสม “XBB” และ “XBC” ในประเทศไทย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ผู้เชี่ยวชาญเผยแล้ว ฉีดวัคซีน ‘mRNA’ แบบไหน? สู้โอไมครอนสายพันธุ์ย่อยได้ดีที่สุด
- ‘XBB’ แซงขึ้นครองอันดับ 1 ในการหลบภูมิ แพร่เชื้อ และดื้อยา ศูนย์จีโนมฯ เผยต้องเฝ้าระวัง ‘ไวรัสลูกผสม’
- ดร.อนันต์ เผยเคส เจอปริมาณไวรัสโควิด ‘ในน้ำตา’ สูง ชี้ช่องใช้ตรวจหาเชื้อสำหรับเด็ก ไม่ต้องแยงจมูก