COVID-19

ทั่วโลกจับตา 5 สายพันธุ์ย่อย ‘ซุปโอไมครอน’ เพราะแพร่ระบาดเร็ว กลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ใหม่ต่อเนื่อง

ทั่วโลกจับตา 5 สายพันธุ์ย่อย ‘ซุปโอไมครอน’ เพราะหลบภูมิเก่ง แพร่ระบาดเร็ว กลายพันธุ์ต่อเนื่อง เกิดเป็นสายพันธุ์ใหม่

ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ.รามาธิบดี โพสต์เพจเฟซบุ๊ก Center for Medical Genomics ระบุว่า ทั่วโลกกำลังเฝ้าติดตาม ไวรัส 5 สายพันธุ์ย่อย ใน ‘ซุปโอไมครอน’ เนื่องจากทั้ง 5 สายพันธุ์ มีการกลายพันธุ์อย่างรวดเร็ว ก่อเกิดเป็นสายพันธุ์ใหม่ต่อเนื่อง ดังนี้

ซุปโอไมครอน

5 สายพันธุ์ย่อยใน ‘ซุปโอมิครอน’ ที่ต้องเฝ้าติดตาม

สายพันธุ์ย่อยใน “ซุปโอมิครอน” ช่วงนี้มีการกลายพันธุ์ไปอย่างรวดเร็ว พบแล้วมากกว่า 300 สายพันธุ์ย่อย (sublineages)

ขณะนี้ทางศูนย์จีโนมฯและทั่วโลกกำลังติดตาม 5 โอมิครอนสายพันธุ์ย่อยกล่าวคือ

  1. XBB พบในฐานข้อมูลโควิดโลก “จีซ่าด (GISAID)”ประมาณ 1,464 ตัวอย่าง
  2. XBB.1 พบในฐานข้อมูลโควิดโลก “จีซ่าด (GISAID)”ประมาณ 802 ตัวอย่าง
  3. CH.1.1 พบในฐานข้อมูลโควิดโลก “จีซ่าด (GISAID)”ประมาณ 80 ตัวอย่าง
  4. BA.4.6.3 พบในฐานข้อมูลโควิดโลก “จีซ่าด (GISAID)”ประมาณ 47 ตัวอย่าง
  5. BQ.1.1.10 (BQ.1.1+Y144del) พบในฐานข้อมูลโควิดโลก “จีซ่าด (GISAID)”ประมาณ 29 ตัวอย่าง (ภาพ1)

ซุปโอไมครอน

หลบภูมิเก่ง เแพร่ระบาดเร็ว กลายพันธุ์ต่อเนื่อง

เนื่องจากผลทดสอบจากห้องปฏิบัติการบ่งชี้ว่าทั้งห้าสายพันธุ์ย่อยนี้หลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้ดีที่สุด โดยเฉพาะโอมิครอน BQ.1 ที่จีโนมบางตำแหน่างขาดหายไป (Y144del) (ภาพ2) และดื้อต่อยาฉีดประเภทแอนติบอดีสำเร็จรูปเกือบทุกชนิด (ภาพ3)

จากการคำนวณรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมระหว่างโอมิครอนสายพันธุ์ย่อยอุบัติใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปเทียบกับโอมิครอนสายพันธุ์หลักในปัจจุบัน BA.5 ที่ระบาดไปทั่วโลกพบว่าทั้ง 5 สายพันธุ์ย่อยมีความการเปรียบในการเติบโต-แพร่ระบาด (relative growth advantage) สูงกว่า BA.5 ด้วยกันทั้งสิ้น

ผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกจึงลงความเห็นว่า ควรติดตามเฝ้าระวัง 5 สายพันธุ์นี้ เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการกลายพันธุ์ต่อเนื่อง เกิดเป็นสายพันธุ์ใหม่ ที่ทางองค์การอนามัยโลก อาจต้องกำหนดอักษรกรีกเรียกต่างไปจากโอมิครอน

ซุปโอไมครอน

เปรียบเทียบการเติบโตแพร่ระบาดกับ BA.5

  • โอมิครอน BA.4.6.3 มีความได้เปรียบในการเติบโต-แพร่ระบาด เหนือกว่า BA.5 ประมาณ 64%
  • โอมิครอน XBB มีความได้เปรียบในการเติบโต-แพร่ระบาด เหนือกว่า BA.5 ประมาณ 89%
  •  โอมิครอน XBB.1 มีความได้เปรียบในการเติบโต-แพร่ระบาด เหนือกว่า BA.5 ประมาณ 101%
  • โอมิครอน CH.1.1 มีความได้เปรียบในการเติบโต-แพร่ระบาด เหนือกว่า BA.5 ประมาณ 190%
  • โอมิครอน BQ.1.10 มีความได้เปรียบในการเติบโต-แพร่ระบาด เหนือกว่า BA.5 ประมาณ 281% (ภาพ4)

อย่างไรก็ดี ในขณะนี้องค์การอนามัยโลกยังไม่พบความแตกต่างของบรรดาสายพันธุ์ย่อยในซุปโอมิครอน ที่ก่อโรครุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต แตกต่างไปจากโอมิครอนสายพันธุ์ดั้งเดิม

ซุปโอไมครอน

ทั้ง 5 สายพันธุ์ ยังไม่พบในไทย

อนึ่งโอมิครอนทั้ง 5 สายพันธุ์ย่อย XBB, XBB.1, CH.1.1, BA.4.6.3 และ BQ.1.1.10 (จากข้อมูลในจีซ่าด) ยังไม่พบการระบาดในประเทศไทย

ในขณะที่โอมิครอน BA.2.3.20 ซึ่งมีรายงานว่าพบในประเทศไทย 2 รายมีความได้เปรียบในการเติบโต-แพร่ระบาด เหนือกว่า BA.5 ไม่มากประมาณ 64% (ภาพ5) หลบเลี่ยงภูมิคุ้มได้ในระดับหนึ่ง แต่น้อยกว่า XBB, XBB.1, CH.1.1, BA.4.6.3 และ BQ.1.1.10 (ภาพ2) นอกจากนี้ BA.2.3.20 ยังไม่ดื้อต่อยาฉีด“เอวูเชลด์” ซึ่งเป็นแอนติบอดีออกฤทธิ์ยาว (Long-acting Antibody – LAAB) ที่ประเทศไทยมีใช้อยู่  (ภาพ3)

ซุปโอไมครอน

ซุปโอไมครอน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo