Politics

เตรียมขอขึ้นทะเบียน ‘Evusheld’ ใช้รักษาผู้ป่วยโควิด ติดเชื้อระยะแรกและเสี่ยงอาการรุนแรง

เตรียมขอขึ้นทะเบียน ‘Evusheld’ ใช้รักษาผู้ป่วยโควิด ติดเชื้อระยะแรกและเสี่ยงอาการรุนแรง เดิมใช้เฉพาะผู้ป่วยภูมิคุ้มกันต่ำ

วันนี้ (21 ก.ย. 65) นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงการใช้ ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป หรือ แอนติบอดีออกฤทธิ์ยาว (Long Acting Antibody : LAAB) ว่า กระทรวงสาธารณสุขได้จัดหา LAAB ยี่ห้อ Evusheld (เอวูเชลด์) ให้กลุ่มผู้มีภูมิคุ้มกันต่ำและร่างกายไม่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้ด้วยวัคซีน เพื่อปกป้องกลุ่มเปราะบางก่อนการสัมผัสเชื้อ (pre-exposure prophylaxis)

Evusheld

ฉีดแล้ว 3,400 ราย เตรียมใช้ในผู้ป่วยโรคมะเร็ง

โดยขณะนี้ฉีดไปแล้วกว่า 3,400 ราย โดย LAAB สามารถออกฤทธิ์ลบล้างเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด 19 ทั้งสายพันธุ์ดั้งเดิมและสายพันธุ์กลายพันธุ์หลายตัว กลุ่มเป้าหมายระยะแรก ได้แก่ ผู้ป่วยไตวายระยะเรื้อรังที่ต้องได้รับการบำบัดทดแทนไต (ฟอกไต), ผู้ที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ และผู้ป่วยปลูกถ่ายไขกระดูก

โดยกำลังพิจารณาเพิ่มกลุ่มเป้าหมายที่จำเป็นต้องได้รับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันด้วย LAAB เช่น ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับการรักษาด้วยเคมีบำบัดและฉายแสง, ผู้ป่วยปลูกถ่ายอวัยวะที่ต้องได้รับยากดภูมิขนาดสูง, ผู้ป่วยโรคข้อที่ต้องรักษาด้วยยากดภูมิ และผู้ป่วยภูมิคุ้มกันต่ำโรคอื่นๆ

ผลวิจัยต่างประเทศ ลดการรุนแรงของโรคและการเสียชีวิต

นายแพทย์โสภณ กล่าวตอไปว่า สำหรับการนำมาใช้หลังรับเชื้อโควิด 19 ล่าสุดมีการศึกษาวิจัยโครงการ TACKLE Phase 3 ที่ตีพิมพ์ใน The Lancet Respiratory Medicine ออกมาแสดงผลการศึกษา LAAB ยี่ห้อ เอวูเชลด์ ขนาด 600 มิลลิกรัม ฉีดในผู้ป่วยโรคโควิด 19 ที่มีอาการเล็กน้อยถึงปานกลางที่เข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยนอก และมีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการรุนแรงหรือเสียชีวิต จำนวน 910 ราย ในสถานพยาบาล 95 แห่งในประเทศสหรัฐอเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่น

พบว่า การให้ภายใน 7 วันหลังมีอาการ สามารถลดการเกิดโรครุนแรงหรือเสียชีวิตได้ร้อยละ 50 เมื่อเปรียบเทียบกับการให้ยาหลอก และหากให้ยาเร็วขึ้นอีกภายใน 5 วันและ 3 วันหลังมีอาการ จะลดการเกิดโรครุนแรงหรือเสียชีวิตได้ร้อยละ 67 และร้อยละ 88 ตามลำดับ

และจากการศึกษาวิจัยแบบสุ่มที่มีการควบคุม (RCT) พบว่า การให้ เอวูเชลด์ ขนาด 600 มิลลิกรัมในการรักษาผู้ป่วยโควิด 19 ที่นอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลและมีอาการมาไม่เกิน 12 วัน จำนวน 1,417 ราย จากสถานพยาบาล 81 แห่งในประเทศสหรัฐอเมริกา ยุโรป อูกันดา และสิงคโปร์ พบว่า ผู้ป่วยกลุ่มที่ได้รับยา Evusheld มีอัตราการเสียชีวิตลดลง  ร้อยละ 30 ซึ่งแสดงถึงผลดีของภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปยี่ห้อ Evusheld ที่ใช้รักษาผู้ป่วยโควิด

Evusheld

ไทยกำลังขอขึ้นทะเบียน ใช้กับผู้ปวยเริ่มแรกและเสี่ยงอาการรุนแรง

กระทรวงสาธารณสุขแรงงานและสวัสดิการญี่ปุ่น อนุมัติให้ใช้ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปยี่ห้อ เอวูเชลด์ เพื่อการรักษาผู้ป่วยอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไปในกลุ่มที่มีความเสี่ยงเกิดอาการรุนแรงจากการติดโควิด 19 ในวันที่ 30 สิงหาคม 2565

นอกจากนี้ วันที่ 20 กันยายน 2565 European Medicines Agency’s (EMA) ของยุโรป อนุมัติให้ เอวูเชลด์ ใช้ในการรักษาผู้โควิด 19 ที่เริ่มมีอาการในระยะแรก ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรครุนแรง

ส่วนประเทศไทยกำลังจะยื่นเอกสารขออนุญาต ขึ้นทะเบียนภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป Evusheld เพื่อใช้รักษาผู้ป่วยโควิด 19 ที่เพิ่งติดเชื้อในระยะแรกและมีความเสี่ยงสูงตามข้อบ่งชี้ทางการแพทย์

Evusheld

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo