กอนช. ‘สรุปสถานการณ์น้ำ’ ภาพรวมของประเทศ หลายจังหวัด เสี่ยงน้ำหลากและน้ำท่วมขัง กรมชลประทานได้เร่งระบายน้ำ
กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 10 ก.ย. 65
ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกหนักบริเวณ จ.สุโขทัย (101) กรุงเทพมหานคร (101 มม.) จ.เลย (100 มม.)
เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลากและน้ำท่วมขัง
ภาคเหนือ
- จังหวัดแม่ฮ่องสอน
- จังหวัดเชียงใหม่
- จังหวัดลำพูน
- จังหวัดลำปาง
- จังหวัดแพร่
- จังหวัดอุตรดิตถ์
- จังหวัดสุโขทัย
- จังหวัดตาก
- จังหวัดกำแพงเพชร
- จังหวัดพิจิตร
- จังหวัดพิษณุโลก
- เพชรบูรณ์
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
จ.เลย หนองบัวลำภู หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม นครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์
ภาคกลาง
- จังหวัดนครสวรรค์
- จังหวัดอุทัยธานี
- จังหวัดชัยนาท
- จังหวัดสิงห์บุรี
- จังหวัดอ่างทอง
- จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
- จังหวัดลพบุรี
- จังหวัดสระบุรี
- จังหวัดกาญจนบุรี
- จังหวัดสุพรรณบุรี
- จังหวัดราชบุรี
- กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ภาคตะวันออก
- นครนายก
- จังหวัดปราจีนบุรี
- จังหวัดสระแก้ว
- จังหวัดฉะเชิงเทรา
- จังหวัดชลบุรี
- จังหวัดระยอง
- จังหวัดจันทบุรี
- จังหวัดตราด
ภาคใต้
- จังหวัดเพชรบุรี
- จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
- จังหวัดระนอง
- จังหวัดพังงา
ปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลัก–แหล่งน้ำ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
- แม่น้ำสายหลัก น้ำน้อยถึงปกติ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่วนแม่น้ำโขง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
- ปริมาณน้ำ แหล่งน้ำทุกขนาด 52,806 ล้าน ลบ.ม. (64%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 46,146 ล้าน ลบ.ม. (65%) เฝ้าระวังน้ำต่ำกว่าเกณฑ์บริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำ จำนวน 1 แห่ง บริเวณภาคเหนือ เฝ้าระวังน้ำสูงกว่าเกณฑ์บริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำ จำนวน 7 แห่ง ได้แก่ แม่งัด แควน้อย อุบลรัตน์ ขุนด่านปราการชล บางพระ หนองปลาไหล และบึงบระเพ็ด
เฝ้าระวังพื้นที่กรุงเทพ พร้อมช่วยเหลือ
กอนช. ติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เร่งหน่วยงานแก้ไขปัญหาพร้อมช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามนโยบายของ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนายการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) จากสถานการณ์ฝนตกหนักสะสมส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร และ จ.ปทุมธานี โดยกรมชลประทานได้เร่งระบายน้ำผ่านแนวคลอง ดังนี้
- คลองแนวขวางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา เช่น คลองหกวาสายล่าง เร่งระบายน้ำลงสู่แม่น้ำนครนายก ผ่านสถานีสูบน้ำสมบูรณ์ จ.นครนายก สามารถระบายน้ำได้ประมาณวันละ 1.3 ล้าน ลบ.ม.
- คลองแสนแสบ (คลองบางขนาก) ระบายน้ำลงสู่แม่น้ำบางปะกง ผ่านประตูระบายน้ำบางขนาก จ.ฉะเชิงเทรา สามารถระบายน้ำได้ประมาณวันละ 4.65 ล้าน ลบ.ม.
- คลองประเวศบุรีรมย์ ระบายน้ำลงสู่แม่น้ำบางปะกง ผ่านประตูระบายน้ำกลางคลองประเวศ จ.ฉะเชิงเทรา ก่อนระบายออกสู่อ่าวไทย
- คลองด้านฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา เช่น คลอง 13 และคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต แบ่งรับน้ำจากทางตอนบนของกรุงเทพมหานคร ก่อนใช้สถานีสูบน้ำที่ตั้งอยู่ริมคลองชายทะเล เร่งระบายลงสู่ทะเลอ่าวไทย ซึ่งสถานีสูบน้ำและประตูระบายน้ำที่ตั้งอยู่ตามแนวคลองชายทะเล มีศักยภาพระบายน้ำรวมกันได้ประมาณ 42 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน
ทั้งนี้ เพื่อช่วยเหลือพื้นที่น้ำท่วมขังในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี กอนช. ได้เร่งให้ดำเนินการระบายน้ำในคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาให้เร็วที่สุด โดยวานนี้ (9 ก.ย. 65) มีปริมาณน้ำไหลผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาในเกณฑ์ 1,448 ลบ.ม.ต่อวินาที ในขณะที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ยังคงอัตราการระบายน้ำอยู่ที่ 300 ลบ.ม.ต่อวินาที ที่จะไม่เกิดผลกระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายเขื่อน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เทศบาลนครรังสิต ขึ้น ‘ธงแดง’ ระดับน้ำ ‘คลองรังสิตประยูรศักดิ์’
- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทย ฝนตกหนักถึงหนักมาก กรุงเทพและปริมณฑล ฝน 70%
- เช็คพื้นที่สีแดงฝนถล่มหนักที่นี่! ‘กรมอุตุฯ’ เตือน กทม. ฝน 80% ตกหนักมากบางพื้นที่