Politics

‘ตรีนุช’ ตั้งใครมาอยู่ที่รักษาการนายกฯ – ต่อสายตรงให้กำลังใจ ‘กนกวรรณ’

“ตรีนุช” ชื่นชม “กนกวรรณ” ทำงานได้ดี มีผลงาน พร้อมรับช่วงงานต่อเพื่อไม่งานสะดุด พร้อมต่อสายตรงพูดคุยและให้กำลังใจ ส่วนปรับ ครม. ให้ใครมาแทนหรือไม่ ให้เป็นอำนาจรักษาการนายกฯ 

น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวหลังศาลฎีกา มีคำสั่งให้นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ หยุดปฏิบัติหน้าที่ ปมรุกป่าเขาใหญ่ ว่า ตนยังไม่ได้คุยกับ นางกนกวรรณ เป็นการส่วนตัว  รับทราบว่ายังปฏิบัติภารกิจงานการศึกษาอยู่ ที่ผ่านมา นางกนกวรรณ ทำงานตามนโยบายได้เป็นอย่างดีมีผลงานที่จับต้องได้

ทั้งนี้เพื่อไม่ให้งานสะดุด ตนจะรับงานในส่วนที่นางกนกวรรณ รับผิดชอบมาดูแลไปก่อน ทั้งสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (สช.) เป็นต้น

ส่วนจะมีการปรับ ครม. เพื่อหารัฐมนตรีคนใหม่มาทดแทนหรือไม่นั้น ตนไม่สามารถตอบได้ ให้เป็นหน้าที่ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาการนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ตัดสินใจ

ปรับ ครม.

น.ส.ตรีนุช  กล่าวว่าตนได้โทรไปพูดคุย และให้กำลังใจนางกนกวรรณ เป็นการส่วนตัวแล้ว  เท่าที่ดูนางกนกวรรณค่อนข้างมีกำลังใจที่ดี ขั้นตอนจากนี้ก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย ซึ่งในส่วนของ ศธ.เองก็ต้องไปดูข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องว่า จะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง เพราะไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน ดังนั้น จึงต้องดำเนินการทุกอย่างด้วยความรอบคอบ

ทั้งนี้สืบเนื่องจาก ที่ศาลฎีกา สนามหลวง ศาลได้มีคำสั่งคดีหมายเลขดำที่ คมจ. 2/2565 ระหว่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ผู้ร้อง นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ ผู้คัดค้าน เรื่อง การฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง

ในชั้นรับคำร้อง คดีนี้ ปปช.ผู้ร้องยื่นคำร้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 14 ก.พ.2545 นางกนกวรรณ ผู้คัดค้าน ดำเนินการขอออกโฉนดที่ดินในพื้นที่หมู่ที่ 15 ตำบลเนินหอม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี เนื้อที่ 30-2-80.5 ไร่ โดยอ้างว่าซื้อที่ดินแปลงดังกล่าวมาจาก นายทิว มะลิซ้อน เมื่อปี 2533 แต่นายทิวไม่มีตัวตน ทั้งไม่เคยมีการเข้าทำประโยชน์ในที่ดิน ที่ดินอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และแนวเขตป่าไม้ถาวรป่าเขาใหญ่ ทำให้รัฐสูญเสียที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติ ให้แก่ผู้คัดค้าน การออกโฉนดที่ดินเลขที่ 41158 ตำบลเนินหอม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี จึงมิชอบด้วยกฎหมาย และเป็นความเสียหายร้ายแรง ผู้คัดค้านยังคงยึดถือครอบครองที่ดินต่อเนื่องตลอดมาจนกระทั่งเข้าดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วย

ผู้ร้องจึงขอให้ศาลฎีกามีคำพิพากษาหรือคำสั่งว่า ผู้คัดค้านฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ให้ผู้คัดค้านหยุดปฏิบัติหน้าที่นับแต่วันที่ศาลฎีการับคำร้องจนกว่าจะมีคำพิพากษา ให้ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งนับแต่วันหยุดปฏิบัติหน้าที่ เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้คัดค้าน และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดเวลาไม่เกินสิบปี ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 335 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 87 และมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ.2561 ข้อ 8 และข้อ 11 , 17 ประกอบข้อ 27

ทั้งนี้ ศาลฎีกามีคำสั่งให้รับคำร้องของผู้ร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย ส่งสำเนาพร้อมเอกสารประกอบให้ผู้คัดค้าน หากผู้ร้องจะคัดค้านให้ยื่นคำคัดค้านภายใน 14 วัน นับแต่วันรับสำเนาคำร้อง กับสั่งให้ผู้คัดค้านหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำสั่งหรือคำวินิจฉัย ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 83 ประกอบมาตรา 87 วรรคสาม และระเบียบที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาว่าด้วยการพิจารณาพิพากษาคดีเกี่ยวกับการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง พ.ศ.2561 ข้อ 12 วรรคสอง โดยศาลฎีกานัดพิจารณาคดีครั้งแรกวันที่ 5 ตุลาคม 2565 วลา 09.30 น.

ปรับ ครม.

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight