รับ ‘ยาคุม’ ผ่านแอปเป๋าตัง แก้ปัญหา ‘แม่วัยใส’ ท้องไม่พร้อมลดลง เดินหน้าป้องกัน ท้องวัยเรียน ให้เหลือ 0.5 ต่อ 1,000 ในปี 70
วันนี้ (26 ส.ค. 65) นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากการขับเคลื่อนร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภายใต้ พ.ร.บ.การป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. 2559 ทำให้นักเรียนนักศึกษาที่ตั้งครรภ์ได้เรียนต่อในสถานศึกษาแห่งเดิมสูงขึ้น จากเดิมปี 2559 ได้เรียนต่อที่เดิม 13.7% ให้ออก หยุดเรียน หรือลาออกเกินครึ่ง 53.5% แต่ล่าสุด ปี 2564 ได้เรียนต่อที่เดิมเพิ่มเป็น 33.8% โดนให้ออก หยุดเรียน หรือลาออกลดลงเหลือ 36.1%
แม่วัยใส ท้องไม่พร้อมลดลง
มากไปกว่านั้น ปัจจุบันอัตราการท้องไม่พร้อมในกลุ่มแม่วัยใสดีขึ้นด้วยเช่นกัน กลุ่มอายุ 15-19 ปี เหลืออยู่ที่ 25 ต่อ 1,000 ประชากร จาก ปี 2562 อยู่ที่ 31 ต่อ 1,000 ประชากร กลุ่มอายุ 10-14 ปี เหลืออยู่ที่ 0.9 ต่อ 1,000 ประชากร จากปี 2562 อยู่ที่ 1.1 ต่อประชากร 1,000 คน
ทั้งนี้ รัฐบาลพร้อมภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ยังคงร่วมกันขับเคลื่อนการคุมกำเนิดอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ในกลุ่มที่ไม่พร้อมโดยเฉพาะในวัยรุ่น มีเป้าหมาย ปี 2570 กลุ่มอายุ 15-19 ปี ให้เหลือ 15 ต่อ 1,000 ประชากร กลุ่มอายุ 10-14ปี ให้เหลือ 0.5 ต่อ 1,000 ประชากร
นางสาวรัชดาฯ กล่าวด้วยว่า สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ซึ่งเป็นอีกหน่วยงานสำคัญในการดูแลสุขภาพประชาชน ได้พัฒนาระบบการให้บริการแจกยาคุมกำเนิดให้ผู้หญิงไทยอายุตั้งแต่ 15-59 ปี สามารถรับยาเม็ดได้ฟรี ครั้งละไม่เกิน 3 แผง คนละไม่เกิน 13 แผงต่อปี
โดยจองสิทธิรับยาคุมฟรี! ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” แล้วไปรับยาที่ร้านยา คลินิก และหน่วยบริการใกล้บ้าน หากไม่มีสมาร์ทโฟน สามารถแสดงบัตรประชาชนเพื่อรับยาคุมกำเนิดชนิดเม็ด ที่หน่วยบริการได้เช่นกัน
ขั้นตอนจองสิทธิรับยาคุมฟรี
สำหรับขั้นตอนจองสิทธิรับยาคุมฟรี! ผ่านแอปเป๋าตัง มีดังนี้
- เปิดแอปเป๋าตัง ไปที่เมนู “กระเป๋าสุขภาพ” กด “สมัครใช้งานกระเป๋าสุขภาพ” แล้วกรอกข้อมูลและรอการยืนยัน
- เมื่อได้รับการยืนยันแล้ว ให้เลือกเมนู “บริการสร้างเสริมสุขภาพ” กด “ยาเม็ดคุมกำเนิด”
- ค้นหาหน่วยบริการ และทำการจองสิทธิภายในวันที่จองสิทธิ และ
- รับยาคุมกำเนิดภายในวันที่จองสิทธิ ตามเวลาทำการของหน่วยบริการที่เข้าร่วมโครงการ เช่น ร้านขายยา คลินิกเวชกรรม คลินิกพยาบาล ฯลฯ
ระวังโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
ขณะเดียวกัน ทางกระทรวงสาธารณสุขได้เตือนว่า การใช้ยาคุมกำเนิดไม่ว่าจะแบบยาเม็ดหรือการฝัง สามารถป้องกันเฉพาะการท้องไม่พร้อม แต่ไม่ได้ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้
ขณะนี้มีตัวเลขรายงานว่า พบผู้เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เพิ่มขึ้น เนื่องจากละเลยไม่สวมถุงยางอนามัย ดังนั้น ขอให้คำนึงถึงเรื่องความเสี่ยงต่อการติดโรคทางเพศสัมพันธ์ด้วย
อ่านข่าวเพิ่มเคิม
- ร่าง MOU ส่ง ‘แรงงานไทย’ ไปทำเกษตรที่เกาหลี ใกล้แล้วเสร็จ ลดปัญหา ‘ผีน้อย’
- ‘ชัชชาติ’ ชง เลื่อนเก็บ ‘ค่าขยะ’ อัตราใหม่ ออกไปอีก 1 ปี เข้าสภากทม. 29 ส.ค.นี้
- ‘เราเที่ยวด้วยกัน เฟส4′ คนชอบเที่ยวแห่จอง 1.3 ล้านสิทธิ ให้ไว!! เหลือ 1.8 สิทธิสุดท้าย