‘covid rebound’ ขึ้น 2 ขีดรอบสอง หลังรับยาต้านไวรัส แพ็กซ์โลวิด และ โมลนูพิราเวียร์ พบ 3 ลักษณะ เผยผู้มีโรคประจำตัว เสี่ยงเกิดอาการมากกว่า
นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเพจ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha ให้ความรู้เรื่อง covid rebound ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ ผู้ป่วยตรวจพบเชื้อโควิด หลังจากรับยาต้ายไวรัส แพ็กซ์โลวิด และ โมลนูพิราเวียร์ ซึ่งจะให้ผลตรวจ ATK เป็นลบ และกลับมาเ็นบวกอีกครั้งหลังหยุดยา 2-8 วัน ข้อความดังนี้ ติดโควิดได้รับยาต้านไวรัสไปแล้ว กลับมาใหม่อีก อย่าตื่นตระหนก ไม่ได้เป็นทุกราย และมีภาวะส่งเสริม
covid rebound ใน 3 ลักษณะ
การรายงานจากสหรัฐโดยวิเคราะห์ข้อมูลระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2022 ถึงวันที่ 8 มิถุนายน 2022 ซึ่งเป็นช่วงของโอไมครอน รักษาด้วย paxlovid 11,270 รายหรือรักษาด้วย molnupiravir 2,374 ราย ภายในระยะเวลาห้าวันหลังจากมีการติดเชื้อ
การกลับมาใหม่ หรือ rebound มีสามลักษณะคือ
- มีเชื้อกลับมาใหม่ จากการตรวจ
- มีอาการกลับมาใหม่ ได้แก่ ไข้ หนาวสั่น ไอ หายใจไม่เต็มอิ่ม เหนื่อยล้า ปวดกล้ามเนื้อปวดหัว เจ็บคอ จมูกคัด น้ำมูกไหล ไม่รับรส กลิ่น อาเจียน ท้องเสีย ผื่น
- ต้องเข้าโรงพยาบาล
ลักษณะที่กลับมาใหม่ไม่แตกต่างกันของการใช้ยา paxlovid หรือ molnupiravir คนที่มีโรคประจำตัวจะมีการกลับมาใหม่มากกว่า
สำหรับ paxlovid
ที่ 7 วัน และ 30 วัน
ลักษณะที่หนึ่ง 3.53% และ 5.4%
ลักษณะที่สอง 2.31 % และ 5.87%
ลักษณะ ที่ สาม 0.44% และ 0.77%
สำหรับ molnupiravir
ที่ 7 และ 30 วัน
ลักษณะที่หนึ่ง 5.86% และ 8.59%
ลักษณะที่สอง 3.75% และ 8.21%
ลักษณะที่สาม 0.84% และ 1.39%
เมื่อดูผิวเผิน คล้ายกับการใช้ molnuvipavir จะมีการกลับมาใหม่มากกว่า
แต่เมื่อวิเคราะห์ propensity score matching ซึ่งเป็นวิธีจัดการกับ ตัวแปรและปัจจัยต่างๆ เพื่อให้มีความน่าเชื่อถือแม่นยำมากขึ้น ในการระบุความเสี่ยง
ผู้มีโรคประจำตัว เสี่ยงเกิด covid rebound มากกว่า
จะพบว่า ความเสี่ยงระหว่างการใช้ยาทั้งสองชนิดนี้ไม่แตกต่างกัน แต่ขึ้นกับ ภาวะหรือโรคประจำตัวของผู้ติดเชื้อ มีโรคหัวใจ ความดันสูง มะเร็งโรคอัมพฤกษ์ โรคปอด โรคไตโรคตับ อ้วน เบาหวาน โรคทางระบบภูมิคุ้มกัน การได้รับการเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ รวมถึงการให้ยาต้านภูมิคุ้มกัน และไม่เกี่ยวพันกับการได้รับวัคซีนหรือไม่
สาเหตุกลไกของการกลับมาใหม่ “ไม่ทราบแน่ชัด” แต่อาจเกี่ยวเนื่องกับการรักษาไม่สามารถกำจัดไวรัสไปได้อย่างหมดจด หรือไวรัสดื้อยา?
อย่างไรก็ตาม การให้ยาต้านไวรัสอย่างสมเหตุสมผล ตามลักษณะของอาการที่เป็นมากขึ้น โดยในคนไทยที่ใช้ฟ้าทะลายโจรแล้วนั้น ไม่ดีขึ้นภายในระยะเวลาสองวัน มีความจำเป็นต้องใช้ยาต้านไวรัส เพื่อป้องกันไม่ให้อาการหนักมากขึ้นจนกระทั่งถึงต้องเข้าโรงพยาบาล
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ลด ‘สูงวัยเสี่ยงโควิด’ แนะ ‘สถานดูแลผู้สูงอายุ’ คุมเข้มความปลอดภัย
- ‘นายกฯ’ หวั่น ‘BA.4 BA.5’ แพร่ระบาดเร็ว แนะประชาชนตรวจ ATK ก่อนกลับมาทำงาน
- น่ากังวล!! WHO เผย ‘โควิด’ ระลอกนี้ มี 35 ประเทศติดเชื้อเพิ่มขึ้น 100% และ 3 ประเทศเสียชีวิต 1,000%