หมอยง ชี้ ‘ฝีดาษลิง’ ยากควบคุม หากเข้าสู่่ระบบ ‘โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์’ เหมือน HIV พร้อมกลายเป็นโรคประจำถิ่น หากระบาดจากคนสู่สัตว์
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก Yong Poovorawan โดยระบุว่า ฝีดาษวานร โรคที่ยากต่อการควบคุม
ลักษณะการเร่ิมต้นของโรค เหมือน HIV คือ กว่าจะแสดงอาการ โรคก็กระจายแล้ว
นับตั้งแต่การระบาดของโรคนอกทวีปแอฟริกา มีการกระจายเพิ่มขึ้นและมียอดผู้ป่วยสูงขึ้นมาโดยตลอด ยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง ปัจจุบันมีผู้ป่วยมากกว่า 17,000 ราย มากกว่า 75 ประเทศ แต่ส่วนใหญ่ยังอยู่ในยุโรปและอเมริกา
เป็นที่น่าสังเกตว่า การรายงานผู้ป่วยเข้าสู่องค์การอนามัยโลก จะไม่ยอมบอกเพศ ที่บอกเพศมีไม่ถึงครึ่งหนึ่ง และเป็นในเพศชายถึง 98 % กว่า เพศหญิงแค่ 1% ไม่มีผู้เสียชีวิตนอกแอฟริกา ที่เสียชีวิตจะอยู่ในทวีปแอฟริกาเพียง 5 ราย
การติดต่อนอกทวีปแอฟริกา เกี่ยวกับกิจกรรมทางเพศสัมพันธ์ ส่วนใหญ่จะเป็นเพศเดียวกัน และเกือบ 40% มีรอยโรคเกิดขึ้นที่อวัยวะเพศ
โรคนี้จึงยากต่อการควบคุม เพราะเมื่อเปรียบเทียบกับ HIV ในระยะแรกเมื่อ 40 ปีก่อน การเริ่มต้นก็แบบเดียวกัน HIV ไม่แสดงอาการของโรคในระยะแรก กว่าจะแสดงอาการก็มีการแพรกระจาย ติดต่อ ไปมากพอสมควร
ฝีดาษวานร ก็เช่นเดียวกัน อาการส่วนใหญ่ไม่มาก เมื่อมีอาการไม่มาก จึงยากในการควบคุม โดยเฉพาะ บางรายอาจจะไม่มีอาการ หรือตุ่มขึ้นเพียงเม็ด 2 เม็ดก็ได้ แต่ข้อดีของฝีดาษวานรมากกว่า HIV คือ ผู้ป่วยโรคนี้จะไม่เรื้อรัง เป็นอยู่ประมาณ 2-4 อาทิตย์ ก็หายขาดเป็นปกติ ไม่เป็นพาหะของโรค
หากเข้าสู่ระบบ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ทำให้ควบคุมได้ยาก
ในอนาคตถ้าควบคุมไม่ได้ การกระจายโรค จะไม่อยู่ในเฉพาะเพศชายเท่านั้น จะกระจายเข้าสู่คนใกล้ชิด และเข้าสู่ระบบ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ทำให้ควบคุมได้ยาก
สิ่งที่น่าเป็นห่วงต่อไปก็คือ แต่เดิมเป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน โดยเฉพาะสัตว์จำพวกพันธุ์แทะ เช่นหนู (giant gambian rat) ในแอฟริกา แต่ขณะนี้เป็นการติดต่อระหว่างคนสู่คน และต่อไปถ้าคนเอาเชื้อนี้ข้ามไปยังสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์เลี้ยง หรือสัตว์ท้องถิ่น เช่นหนู แล้ว สัตว์จะเป็นพาหะ อยู่ในสัตว์ ก็จะยิ่งยากในการควบคุม และ การติดต่อ จากสัตว์จะข้ามมาสู่คนได้อีก โดยเฉพาะสัตว์ฟันแทะที่อยู่ในเมือง ก็จะทำให้เกิดเป็นโรคประจำถิ่น ที่ยากต่อการกำจัดหรือควบคุม
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ดร.อนันต์ เผย บ้านสะอาด ปราศจาก ‘ไวรัสฝีดาษลิง’ แค่ใช้สิ่งนี้??
- ระทึก! เจออีกราย ต้องสงสัย ป่วย ‘ฝีดาษ ลิง’ ที่ภูเก็ต นายกฯ ย้ำ อย่าตระหนก ผลยังไม่ยืนยัน
- ศูนย์จีโนมฯ เผยงานวิจัย ‘ไวรัสฝีดาษ ลิง’ แพร่จากการ ‘ร่วมเพศทางทวารหนัก’ โดยไม่แสดงอาการ